ไปภูกระดึ่งดึงดึ้ง Part 2
27 ธันวาคม 2559
05.00 น. เช้าแล้วจ้า จะมีเสียงตามสายของเจ้าหน้าที่
บอกให้รีบตื่นถ้าอยากไปดูพระอาทิตย์ขึ้น
บอกให้รีบตื่นถ้าอยากไปดูพระอาทิตย์ขึ้น
คือจริงๆต้องตื่นก่อนตี 5 เพราะต้องออกจากบริเวณที่พักตอนตี 5
ห้ามไปก่อนเด็ดขาด เพราะอาจจะเจอช้างป่ากำลังหากินวิ่งมากระทืบได้
และถ้าไปช้าเกินก็จะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาลไปยืนออกันอยู่ที่ริมผาแล้ว
เราก็จะอดที่นั่งดี ๆ นั่นเอง แต่พอไม่ถึงตอนไหนก็ตามคนแม่งเยอะละ
เราก็ล้างหน้า เข้าห้องน้ำนิดหน่อย แล้วก็ออกเดินทางกัน ตามคนอื่นไป
ระหว่างทางก็ไม่ได้ถ่ายอะไรเท่าไหร่ เพราะมันมืดไง
มาถึงก็จับจองที่นั่ง แต่คนก็เยอะแล้วแหละ เลยไม่ได้นั่งตรงขอบ ๆ เท่าไหร่
แต่ดีแล้ว กลัวตกลงไป 55555555555
แสงแรกมาแล้วจ้าาา ของจริงคือสวยมาก ไม่ต้องถ่ายรูปมาหรอก 555555
กลับที่พักไปอาบน้ำเตรียมเดินเที่ยวต่อดีกว่า
ระหว่างทางก็ถ่ายรูปเก็บแดดกันไป

ท้องฟ้าโปร่งแล้ว
เราก็ล้างหน้า เข้าห้องน้ำนิดหน่อย แล้วก็ออกเดินทางกัน ตามคนอื่นไป
ระหว่างทางก็ไม่ได้ถ่ายอะไรเท่าไหร่ เพราะมันมืดไง
มาถึงก็จับจองที่นั่ง แต่คนก็เยอะแล้วแหละ เลยไม่ได้นั่งตรงขอบ ๆ เท่าไหร่
แต่ดีแล้ว กลัวตกลงไป 55555555555
อากาศก็หนาวๆ ควันออกปากกันไป เครื่องกันหนาวเลยต้องเยอะหน่อย
ก็จะเห็นคนจำนวนมากอยู่ในบริเวณเดียวกัน
แสงแรกมาแล้วจ้าาา ของจริงคือสวยมาก ไม่ต้องถ่ายรูปมาหรอก 555555
คนเยอะแบบถ่ายภาพหมู่กันไปเลย เย่
เก็บตะวันกันหน่อย
ช่างภาพตัวน้อย คือ นางถ่ายเองจริง ๆ นะ เหมือนพ่อแม่เตรียมกล้องให้
แล้วก็ให้ลูกไปเก็บภาพที่ชอบ ที่เจอมาอะไรงี้ น่ารักดี
ระหว่างดูพระอาทิตย์ขึ้น ก็จะมีโอวัลติน กาแฟ อุ่น ๆ ให้ซื้อมาจิบกัน
พี่ทหารก็จะตั้งโต๊ะเอาไว้ ใครใคร่ซื้อก็ไปซื้อมาดื่ม
แต่ว่า!! ตอนนี้นะ เดือดมาก คือตอนที่บางคนทยอยกันกลับที่พัก
อีช่วงตอนที่ให้แวะจิบโอวัลตินร้อนแบบคูลๆ ถ่ายรูปไปชิวๆเนี่ย
มันจะมีคนบางพวกที่แม่งทิ้งแก้วโอวัลตินกันเกลื่อนมาก
มันแย่อ่ะ ใครได้อ่านแล้วไปเที่ยว อย่าทำเลยนะ ขอร้อง
เจ้าหน้าที่เขาก็เตรียมถังขยะไว้ให้ เดินไปทิ้งหน่อยไม่ตายหรอก
อย่ามักง่ายกันเลย มันสกปรก ถ่ายรูปก็ติด เราเลยเก็บไปพลางๆ
กลับที่พักไปอาบน้ำเตรียมเดินเที่ยวต่อดีกว่า
ระหว่างทางก็ถ่ายรูปเก็บแดดกันไป
**ตรงนี้จริง ๆ ต้องเล่าว่าเจอเพื่อนด้วย เพราะเพื่อนถ่ายรูปนี้ให้
เป็นเพื่อนที่มหาลัย เรามักจะเรียกเค้าด้วยชื่อจริง วีรยุทธ์
แปลกดี ที่ม.ไม่ค่อยเจอกัน แล้วเค้าก็น่าจะซิ่วออกไปแล้วด้วย
ดันมาเจอกันที่นี่ แถมถ่ายรูปให้ด้วย 555**
ท้องฟ้าโปร่งแล้ว
ทางเดินก็จะเห็นป้ายแจ้งเตือนตลอด play safe ไว้นะทุกคน
วางแผนการเดินสำหรับวันนี้
1,576 เมตร ถึงน้ำตกเพ็ญพบใหม่ ตรงนี้มีใบเมเปิ้ล เป็นหุบเหวลงไปข้างล่าง
มันจะมีแง่งหินให้ออกไปนั่งถ่ายรูปอยู่ น่ากลัวเหมือนกัน นี่กลัวเอง 55555
เราเลยไม่เลือกที่จะลงไปถ่ายรูปข้างล่าง ไม่อยากไปแย่งๆกับคนอื่น
นั่งเล่นลมเย็น ๆ พักใหญ่ก็เดินต่ออันต่อไป
ช่วงนี้แหละ ได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น คือจริงๆก็เตรียมใจมาก่อน
แต่ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นจริง ๆ นั่นก็คือ พื้นรองเท้าไม่รักเราอีกแล้ว
แต่จริง ๆ ก่อนมาคือมันเปิด ๆ อยู่ แล้วให้พ่อเอากาวรองเท้าติดให้
ตอนแรกมันก็ดูจะรอด แต่มันไม่รอดอ่ะ เลยต้องหาสารพัดวิธีมาดึงไว้
วิธีที่ 2 ลองสละเชือกกางเกงมามัด แต่กางเกงยังปกติดีนะ
วิธีสุดท้าย ไม่ได้ถ่ายไว้ แต่เอาเชือกรองเท้าเอง มาร้อยใหม่ให้มันเกี่ยวพื้นเอาไว้
พื้นรองเท้ามีรูให้เกี่ยวได้อย่างง่ายดาย คือมันเปิดแค่ตรงส่วนหน้า ๆ
อันนี้คือลองทดสอบการถ่ายรูปไม่ให้เห็นเชือกที่มัดไว้ 5555555555555
อ่ะ เดินต่อได้
ส่วนช่วงนี้ใช้โทรศัพท์ถ่ายรูปซะส่วนใหญ่ เพราะกล้องแบตหมดแล้ว
เลยจำไม่ได้ว่ารูปไหนคือโซนไหนยังไง แต่เส้นทางที่เราเดินต่อไปจะประมาณนี้
ตามทางในแผนที่ไปเรื่อยๆเลย
ช่วงนี้แหละ ได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น คือจริงๆก็เตรียมใจมาก่อน
แต่ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นจริง ๆ นั่นก็คือ พื้นรองเท้าไม่รักเราอีกแล้ว
แต่จริง ๆ ก่อนมาคือมันเปิด ๆ อยู่ แล้วให้พ่อเอากาวรองเท้าติดให้
ตอนแรกมันก็ดูจะรอด แต่มันไม่รอดอ่ะ เลยต้องหาสารพัดวิธีมาดึงไว้
วิธีที่ 1 หนังยางจากข้าวเหนียวหมู เดิน ๆ ไปมันก็เลื่อน ๆ จนหลุด T^T
วิธีที่ 2 ลองสละเชือกกางเกงมามัด แต่กางเกงยังปกติดีนะ
วิธีสุดท้าย ไม่ได้ถ่ายไว้ แต่เอาเชือกรองเท้าเอง มาร้อยใหม่ให้มันเกี่ยวพื้นเอาไว้
พื้นรองเท้ามีรูให้เกี่ยวได้อย่างง่ายดาย คือมันเปิดแค่ตรงส่วนหน้า ๆ
อันนี้คือลองทดสอบการถ่ายรูปไม่ให้เห็นเชือกที่มัดไว้ 5555555555555
อ่ะ เดินต่อได้
ส่วนช่วงนี้ใช้โทรศัพท์ถ่ายรูปซะส่วนใหญ่ เพราะกล้องแบตหมดแล้ว
เลยจำไม่ได้ว่ารูปไหนคือโซนไหนยังไง แต่เส้นทางที่เราเดินต่อไปจะประมาณนี้
ตามทางในแผนที่ไปเรื่อยๆเลย
558 เมตร ถึงน้ำตกโพนพบ
342 เมตร ถึงน้ำตกเพ็ญพบ
342 เมตร ถึงน้ำตกเพ็ญพบ
2,199 เมตร ถึงสระอโนดาด
และตรงนี้แหละ ที่คนอื่นเค้าจะเดินต่อกันไปจนกว่าจะถึงผาหล่มสัก แต่เราไม่
เราเดินกลับที่แยกไปเลาะทางผา จะได้ไม่ไปไกลมาก และเมื่อวานเราไปดูพระอาทิตย์ตกมาแล้ว
เลยไม่ตื่นเต้นกับการดูพระอาทิตย์ตกที่ผาอื่นในวันนี้เท่าไหร่ เราเลี้ยวมาอีกแยก
แต่ก่อนไป เราก็นั่งชิล กินข้าวเหนียวหมู พักผ่อน เพราะมันร่มรื่นมาก
มีสระน้ำใหญ่ๆ ร่มไม้ พื้นหญ้ากว้างๆให้นั่งได้ คนส่วนมากก็พักกันที่จุดนี้
อันนี้ไม่ได้ถ่ายรูปมา หน้ามืดหิวอยู่ 555555555
พักเสร็จก็เดินต่อ ตามทางที่บอกว่าไม่ได้ไปผาหล่มสักนั่นเอง
แต่ก่อนไป เราก็นั่งชิล กินข้าวเหนียวหมู พักผ่อน เพราะมันร่มรื่นมาก
มีสระน้ำใหญ่ๆ ร่มไม้ พื้นหญ้ากว้างๆให้นั่งได้ คนส่วนมากก็พักกันที่จุดนี้
อันนี้ไม่ได้ถ่ายรูปมา หน้ามืดหิวอยู่ 555555555
พักเสร็จก็เดินต่อ ตามทางที่บอกว่าไม่ได้ไปผาหล่มสักนั่นเอง
1,800 เมตร ถึงผาเหยียบเมฆ ซึ่งมีความคิดเอาเองว่าเพราะมันมีมุมมองที่เกือบเสมอเมฆ
เวลาถ่ายรูปเลยเหมือนเหยียบเมฆอยู่ อาจจะนะ เพราะไม่ได้ลองถ่าย
แค่ลองมองๆดูตอนเดินเข้าไปตรงนั้น
1,562 เมตร ถึงผานาน้อย
667 เมตร ถึงผาหมากดูก
ไม่ได้รอดูพระอาทิตย์ตกอะไรเท่าไหร่ เพราะดูไปแล้วเมื่อวาน ก็เลยกลับที่พัก
ล้างหน้าล้างตาหา หาอะไรกิน สุดท้ายมาจบที่หมูกระทะอีก แต่กินอีกร้านนึง
จริง ๆ มันชุดละ 500 แต่พ่อค้าดันบอกว่า 400 เฉย ไม่รู้ทำไม
มีการเดินมาบอกว่าจริง ๆ ราคามัน 500 นะ แต่ผมบอกไปแล้ว 400 นั้นผมคิด 400 แล้วกัน
โดยรวมวันนี้ก็รองเท้าขาด และก็ไม่ค่อยได้ถ่ายรูป
ลองประมวลภาพวันนี้ซักนิดหน่อยแล้วกัน
21.30 น. รถทัวร์มา ขึ้นรถกลับบ้าน
ไม่ได้รอดูพระอาทิตย์ตกอะไรเท่าไหร่ เพราะดูไปแล้วเมื่อวาน ก็เลยกลับที่พัก
ล้างหน้าล้างตาหา หาอะไรกิน สุดท้ายมาจบที่หมูกระทะอีก แต่กินอีกร้านนึง
จริง ๆ มันชุดละ 500 แต่พ่อค้าดันบอกว่า 400 เฉย ไม่รู้ทำไม
มีการเดินมาบอกว่าจริง ๆ ราคามัน 500 นะ แต่ผมบอกไปแล้ว 400 นั้นผมคิด 400 แล้วกัน
โดยรวมวันนี้ก็รองเท้าขาด และก็ไม่ค่อยได้ถ่ายรูป
ลองประมวลภาพวันนี้ซักนิดหน่อยแล้วกัน
รูปนี้คือเห็นคนถ่ายเยอะมาก เลยอยากถ่ายด้วย ก็ถ่ายมาซะเลย
อันนี้เป็นโซนที่พักเหมือนกัน แต่จากสีเต้นท์จะเห็นว่าเป็นของนักท่องเที่ยวเอามาเอง
คือมันจะมีเต้นท์หลายแบบมากกกกก ทั้งมาคู่ มาครอบครัว มาแก๊ง
เห็นเต้นท์ที่มันฟูลออพชั่นแล้วมันน่ารักอ่ะ
จบวันที่ 2 พรุ่งนี้กลับแล้ว
28 ธันวาคม 2559
7.30 น. ตื่น เก็บของ อิดออด นอนต่อ
ซึ่งการตื่นมาเนี่ย บอกเลยว่าไม่ได้อาบน้ำแล้ววันนี้
เพราะวางแผนว่าจะไปอาบตอนถึงข้างล่าง
และเราขอแนะนำทุกคนเลยนะ ว่าต่อให้หนาวแค่ไหน จงสระผม
เราปล่อยเอาไว้ 4 วัน คือสระตอนก่อนออกจากบ้าน
ไปทำงาน แล้วขึ้นรถมาเลย จากนั้นไม่ได้สระอีกเลย
ถามพี่เจ พี่เจก็บอกว่าเฉย ๆ แต่จริง ๆ หัวแม่งโคตรมัน
แต่สำหรับเรา เราไม่คันนะ แถมยังรู้สึกสบายหัวด้วย คิดว่าน่าจะเพราะมันหนาว
8.30 น. หาอะไรกิน
10.00 น. เริ่มเดินทางลงจากภู
ตอนมาถึงมันยังมืดอยู่ เลยไม่ได้ถ่ายกับป้ายเลย ลงมาถ่ายรอบนี่ทีเดียว
14.00 น. ถึงตีนเขา ตอนนี้ก็หาที่จัดวางสัมภาระ
ซึ่งการตื่นมาเนี่ย บอกเลยว่าไม่ได้อาบน้ำแล้ววันนี้
เพราะวางแผนว่าจะไปอาบตอนถึงข้างล่าง
และเราขอแนะนำทุกคนเลยนะ ว่าต่อให้หนาวแค่ไหน จงสระผม
เราปล่อยเอาไว้ 4 วัน คือสระตอนก่อนออกจากบ้าน
ไปทำงาน แล้วขึ้นรถมาเลย จากนั้นไม่ได้สระอีกเลย
ถามพี่เจ พี่เจก็บอกว่าเฉย ๆ แต่จริง ๆ หัวแม่งโคตรมัน
แต่สำหรับเรา เราไม่คันนะ แถมยังรู้สึกสบายหัวด้วย คิดว่าน่าจะเพราะมันหนาว
วันนี้ไม่มีไรมาก แม้แต่รูป.... 5555555
10.00 น. เริ่มเดินทางลงจากภู
ตอนมาถึงมันยังมืดอยู่ เลยไม่ได้ถ่ายกับป้ายเลย ลงมาถ่ายรอบนี่ทีเดียว
14.00 น. ถึงตีนเขา ตอนนี้ก็หาที่จัดวางสัมภาระ
หาห้องน้ำ เตรียมเสื้อผ้า แล้วก็ไปอาบน้ำ
ตอนนี้จะอาบน้ำสบายขึ้นมาก มันจะไม่หนาวเท่าข้างบน
บวกกับเราเดินลงมา เหงื่อแตกพลั่กๆ สบายย
จากนั้นเราก็นั่งรถแดงกลับออกมายังร้านเจ๊กิม
หาขนมกิน นั่งรอ กินข้าว รอจนกว่ารถทัวร์ที่จองไว้จะมา
21.30 น. รถทัวร์มา ขึ้นรถกลับบ้าน
29 ธันวาคม 2559
04.50 น. ถึงกรุงเทพฯแล้วจ้า แยกย้ายกลับบ้านนอน
จบปึ้ง!
Comments
Post a Comment