2 วัน 1 คืน ที่อัมพวา #สรุปอัมพวาอะไรนะ
วันหยุดเสาร์อาทิตย์ที่แสนสดใสของน้อง และเพื่อนๆทั้งหมด 6 คนที่อัมพวา
มาจ้าา
ขึ้นต้นโพสต์มาแบบ เอ้ย ต้องเริ่มยังไงวะ 5555555555
เราไปเที่ยวมา ในช่วงวันเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา คือวันที่ 4 - 5 สิงหาคม 2561
ก่อนหน้านี้เราก็มีคิดๆว่า เอ้ย ถ้ามีวันหยุดแค่เสาร์อาทิตย์จะไปเที่ยวไหนกันดี
เอาแบบง่ายๆ ไปได้ 2 วันแบบเดินทางไม่เหนื่อยและไม่เสียเวลา
โจทย์หลักของเราในทริปนี้จริงๆแล้วคือที่พัก ซึ่งขอบอกเลยว่า
มันเป็นไฮไลท์ของทริปเราที่ทำให้เราตัดสินใจจะกลับมาอีกในปริมาณคนที่มากกว่านี้ด้วย
อ่ะ เราเริ่มออกเดินทางผ่านถนนพระราม 2 ตอนช่วงเช้า เพื่อไปยังแลนด์มาร์คแรก
ตลาดร่มหุบ ที่ใครหลายคนคงเคยคิดว่า เออ อยากไปดูของจริงสักครั้ง
การจะมาตลาดร่มหุบ แล้วเจอร่บหุบจริงๆ จะต้องศึกษาตารางเวลารถไฟ
ไม่ใช่จะมาตอนไหนก็ได้นะ ซึ่งตารางเวลาของรถไฟที่นี่ก็ค่อนข้างตรง ไม่ดีเลย์มาก
(1) วัดเทพสมุทรววิหาร
ก่อนจะเข้าไปในตลาดร่มหุบเราไปจอดรถที่ลานจอดรถของวัดเพชรสมุทรวรวิหาร
แล้วก็เลยเข้าไปไหว้พระให้เป็นศิริมงคลกับการเริ่มต้นทริปของเราสักหน่อย
ภายในโบสถ์ ติดแอร์ด้วย มีเส้นสีแดงแสดงเขตถ่ายภาพ
ลอยเทียนต่อชะตาคนเกิดวันเสาร์เอาสีม่วง
ปิดทองหลังพระก็มา
(2) ตลาดร่มหุบ
จากนั้นเราก็เดินไปที่ตลาดร่มหุบกัน นักท่องเที่ยวเยอะมาก มากกกก มากกกกก
ทั้งไทย จีน เกาหลี ฝรั่ง เบียดเสียดกัน ถ่ายรูป ซื้อของกิน ถ่ายรูป ซื้อของกิน
จนแบบ ไม่มีที่ยืนในสังคมอ่ะ 5555555555555 เราลองเดินเข้าไปตรงโซนที่เป็นตลาด
ซึ่งค่อนข้างยาวอยู่เหมือนกัน ตอนแรกก็หวังว่าคงไปรอในตลาด จะได้เห็นชัดๆ
ปรากฏว่าชัดเกิน ใกล้เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของรถไฟ บ้าบอ
ตารางเวลาที่เราจะต้องดูเอาไว้ก่อนไปเจอร่มหุบ มีดังนี้
อย่างเรา เราเจอ 11.10 น. กับ 11.30 น.
คนเยอะมากกกกกกกก
บริเวณใกล้ๆสถานีก็จะมีร้านน้ำร้านอาหารให้บริการนักท่องเที่ยวอยู่
มีแม่ค้าน้ำแตงโมคนนึง ขายเกาหลีแหละ พูดภาษาไทยปนกับเกาหลี
คนเกาหลีจะเข้าใจมั้ยอ่ะ ตัวอย่าง อันยองฮาเซโย แตงโมปั่นเซโย ... 5555555
ถ่ายกับรถไฟแบบทัวร์ไทย ไม่กล้าบอกทัวร์จีนอ่ะ
คือแม่ค้าที่ตลาดเนี่ย เขาจะมีฟังก์ชั่นล้อเลื่อน ตรงแผงที่งอกเข้าไปในราง
แล้วมันก็จะมีความแบบ ทำทุกวันอ่ะ นักท่องเที่ยวก็จะมาทุกวัน
วุ่นวาย เยอะแยะ ยั้วะเยี้ยะอย่างที่บอก แม่ค้าก็จะมีความเหนื่อยเอือมบ้างบางคน
อย่างร้านที่เรายืน มันจะมีครอบครัวฝรั่ง มีลูกสาวประถมอ่ะ 2 คน ก็ยืนใกล้แผง
พอรถไฟมานางก็พิงเข้าไป แบบดันตัวไปที่แผง ป้าแม่ค้าเลยตะโกน
แบบ โอ้ย อย่าพิง บอกว่าอย่าพิงก็ชอบพิงกันจริงโว้ย แล้วก็ส่ายหน้าๆ
พี่โหน่งไปยืนรอเล่นรถไฟเหรอ
ภายในตลาด ค่อนข้างแออัด
รถไฟในระยะเผาขน
แต่ถามว่า เราได้เห็นความร่มหุบแบบเต็มสตรีมหรือยัง บอกเลยว่าไม่อ่ะ 55555
ออกจากตลาดร่มหุบก็เกือบๆจะเที่ยงแล้ว มุ่งหน้าไปยังจุดปักหมุดต่อไปของเรา
(3) บ้านแมวไทย
เราไปเจอในแมพ ว่าระหว่างทางมาเที่ยวอัมพวา ไปไหนดี
แล้วก็เจอว่ามี บ้านแมวไทย ที่เป็นเหมือนสถานที่อนุรักษ์พันธุ์แมว
ตอนแรกคิดว่าเขาจะทำเป็นคาเฟ่แมวไปเลย แต่ด้วยงบประมาณและสถานที่
อาจจะยังไม่เอื้ออำนวยเท่าไหร่ น้องก็เลยอยู่ในกรงเรียงกันเป็นแถวๆ
บางตัวก็ง่วงหงาว บางตัวก็คึกคัก บางตัวสนใจ บางตัวเมินๆ
เราก็ไปดูไปเดินเล่นกับน้องได้ แต่ไม่แน่ใจว่าเขาให้จับหรือเปล่านะ
ถ้าใครมีโอกาสได้ไป ก็อย่าลืมสบทบทุนค่าดูแลที่พักอาหารให้น้องด้วยน้า
นอนก่อนนา
ตัวนี้น่าจะคึกสุดในบรรดาทุกตัว แหงนเก่งงงง
(4) The Kittens Koffie Art 'n Eat
ข้างๆบ้านแมว ก็จะมีคาเฟ่ที่เราคิดว่าเป็นคาเฟ่แมวตอนแรก แต่จริงๆห้ามเอาสัตว์เลี้ยงเข้า
เป็นคาเฟ่และร้านอาหาร เราก็เลยถือโอกาสรับทานข้าวเที่ยงกันที่นี่เลย
รสชาติอาหารใช้ได้ ราคาก็พอรับได้อยู่ นอกจากอาหารแล้วก็มีอย่างอื่นด้วย
พวกเครื่องดื่ม ชา กาแฟ นม แล้วก็ขนมจำพวกโทสต์อะไรบลาๆ
จานแมวน่าร้ากก
เริ่มด้วยนักเกต
ต่อด้วยสลัดแบบคนผอม
จากนั้นก็ผัดไทย
เมนูสุดท้ายเกือบไม่ทันได้ถ่ายรูปมา เพราะได้มาปุ๊บก็คว้าๆๆกันเลย
หลังจากรับทานมื้อแรกกันอิ่มหนำสำราญแล้ว นี่เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นในการรับทานของพวกเรา
เพราะหลังจากนี้เราก็ไม่หยุดกินกันอีกเลย จนกระทั่งจบทริปเดินทางกลับ
การกินเป็นเหมือนกรรมของพวกเรา T^T
(5) บ้านแควอ้อม
ได้ฤกษ์เดินทางเข้าที่พักสักที ตอนนี้เราต้องมารอเพื่อนร่วมทริปของเราอีก 2 คน
ที่ต้องแวะไปทำธุระตอนเช้าก่อน และเพื่อให้ครบองค์ประชุมแล้วค่อยไปเที่ยวต่อ
เราจองที่พักผ่านไลน์ของที่พักเลย เจ้าหน้าที่ตอบกลับมาแบบสุภาพน่ารัก
แจ้งรายละเอียดเส้นทาง และให้เบอร์ผู้ดูแลบ้านพักมาเผื่อว่าเราจะหาที่พักไม่เจอ
เราจ่ายมัดจำไปครึ่งหนึ่ง จองบ้านสำหรับ 6 คน เป็นบ้านหลังเล็กจากทั้งหมด 2 หลัง
เอ้อ มีแค่ 2 หลังแกร แต่หลังใหญ่จะเป็นอารมณ์แบบ pool villa มีสระน้ำหน้าบ้าน
ซึ่งเราถามจากเจ้าหน้าที่ในไลน์เรื่องสระว่ายน้ำ เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ถ้าบ้านใหญ่ไม่มีคนพัก
เราจะสามารถไปเล่นน้ำได้ และเราก็โชคดีมาก เพราะคนเข้าพักเช็คเอ้าวันที่เราไปพอดี
บ้านก็จะใหญ่ประมาณนี้
บ้านโดยรวมน่าอยู่มาก มากกกกกกกก มากกก แบบสิบ สิบ สิบไปเลยจ้า
ด้านล่างจะเป็นห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องน้ำ 2 ห้อง มีศาลาริมน้ำ โซนปิ้งย่างสังสรรค์
ชั้นบนมีห้องนอนรวม น่าจะเพียงพอถึง 10 คน แล้วก็มีระเบียงไม่เล็กไม่ใหญ่มากนัก
คือถ้ามีที่อ่ะ ก็อยากมาทำบ้านแบบนี้อยู่เลยแหละ
คนดูแลก็ดีนะเอ้อ อัธยาศัยดี ให้ความช่วยเหลือและร่วมมือทู้กอย่าง
ไม่ว่าจะต้องการอะไร แค่อ้าปาก ของก็มารอตรงหน้าเล่ยยยย
แต่การเดินทางมาที่นี่อาจจะยากนิดหน่อยตรงที่ทางเข้ามันซ่อนอยู่หลังวัด
เราจะต้องขับรถเข้ามาในวัดบางเกาะเทพศักดิ์ แล้วจอดรถที่หน้าบ้านของ อบต.
ท่านจะดูแลรถของเราให้อย่างดี เพราะพอจอดเรียงกัน 3 คันแล้ว รถท่านแพงสุดจ้า
ลงจากรถเราก็โทรหาคุณใหญ่ ตามเบอร์ที่เจ้าหน้าที่ให้มา ทุกคนก็จะเดินออกมารับเรา
มีรถเข็นมาเตรียมขนกระเป๋าให้เต็มที่ แต่เรามีกระเป๋าแค่คนละใบสองใบ
เลยถือไปกันเอง จากนั้นเราก็ต้องเดินข้ามกำแพงเข้าไปทางที่เป็นสวน
เดินทะลุสวนเข้าไปตามทางก็จะเจอบ้านพักตั้งอยู่ตรงริมน้ำแบบบรรยากาศสุดชิว
ทางเดินเข้าบ้าน
ถึงบ้านแล้ววว
ห้องนอนรวมก็จะประมาณนี้ เรานอนไกลจากแอร์สุด ร้อนเฉย เหงื่อแตก
อาจจะต้องเปิดเบอร์แรงกว่านั้น แต่ส่วนตัวเราคิดว่าแอร์เขาขนาดเล็กไป
นี่คือบ้านข้าง ๆ พูลวิลล่า
ห้องครัว ที่จริงๆเราไม่ได้ใช้เท่าไหร่ ไม่ได้ใช้เลยแหละ
ห้องนั่งเล่น ชิวมากกก
ตรงนี้เป็นชานบ้านด้านนอก จริงๆอยู่ตรงทางเข้า จะเห็นว่ามีเรือคายัค พายได้เลยนะ
ไม่แขวนผ้าขนหนู ถ้าที่บ้านมีอันนี้ตอนเด็กๆ ขาอาจจะหักซ้ำแล้วซ้ำอีก
ต้องเรียบร้อยขนาดนั้นมั้ยอ่ะ
เราเก็บของนอนเล่นรอเพื่อน พอเพื่อนมาก็ออกไปเที่ยวข้างนอกกันต่อ
(6) ค่ายบางกุ้ง
เราเคยมาที่วัดบางกุ้งแล้วครั้งนึงตอนวันธรรมดา ประมาณปี สองปีที่แล้ว
ตอนนั้นคนน้อยมาก น่าจะเป็นเพราะเป็นวันธรรมดา แต่มารอบนี้
พอเป็นวันเสาร์คนก็เลยเยอะมากประมาณนึง ก็มีทัวร์นั่งท่องเที่ยวต่างชาติมาลงด้วย
ภายในจะค่อนข้างแคบ น่าจะเป็นเพราะเก่าแก่มากแล้วด้วย แต่ผู้คนก็หลั่งไหลกันมา
โดนให้ใส่ผ้าถุงเพราะใส่กางเกงสั้นเหนือเข่า สีผ้าถุงก็เข้าธีมไปอี้กก
ด้านนอกของวัดก็จะประมาณนี้
จากประวัติของที่นี่ ก็เป็นวัดที่เก่าแก่มีอายุยาวนาน แถมวัดยังสวยด้วย
นอกจากตัววัดก็จะมีรูปปั้นจำลองของค่ายบางกุ้งอยู่แถวๆบริเวณนั้นด้วย
ตอนแรกเห็นตรงกำแพงคิดว่าด้านในอาจจะมีอะไรมากกว่านั้น แต่ไม่มีนะ 55555
แยกไม่ออกเลยไหนหุ่นไหนคน
(7) ตลาดน้ำอัมพวา
ออกจากค่ายบางกุ้งเราก็มุ่งหน้าไปยังตลาดน้ำอัมพวา เหมือนจะเป็นช่วงตลาดยามเย็นละ
ตอนไปถึงเราก็มุ่งหน้าไปสู่อาหารและเครื่องดื่ม ไป๊!!
เฉาก๊วยนมสด อันนี้กินวันแรก วันสองมาอีกก็กินอีก เย้
ชอบที่เขาปั่นน้ำนมสดอ่ะ ไม่ใช่แบบใส่น้ำแข็งเฉยๆ
หอยเผา 1 ชุดให้พอหายอยาก
ตลาดน้ำอัมพวา จริงๆเคยมาหลายทีแล้ว ก็ไม่มีอะไรมาก นักท่องเที่ยวเยอะ
คนเยอะ อาหารเยอะ เรือเยอะ เหมือนจะมีร้านชิคๆชิวๆเพิ่มจากที่เราเคยมา
มีที่พักอยู่ในตลาดน้ำด้วย อันนี้ไม่แน่ใจว่ามันมีมาตลอดหรือเปล่า
เพราะไม่เคยสังเกตมันเลย 5555555555555 แต่น่าจะเหมาะกับชาวต่างชาติ
ตลาดน้ำยามเย็นอัมพวา
จริงๆตอนแรกก่อนมา เราตั้งใจว่าอยากนั่งเรือชมหิ่งห้อยมาก
อยากรู้ว่ามันคือดวงไฟอย่างที่คนอื่นชอบแซะจริงมั้ย แต่สุดท้ายก็ไม่ได้นั่ง
เพราะคนอื่นไม่เอาด้วย 555555 เราซื้อของกินของเล่น เดินเล่นจบแล้วกลับบ้าน
(8) Party Time
ตอนนี้คือกลับมาบ้านแล้วมาสั่งอาหารจากที่บ้านพักกิน เหมือนไปตลาดแล้วไม่ได้กินอะไรเหรอ
แต่อาหารที่สั่งคือต้องสั่งจากร้านด้านนอกให้เจ้าหน้าที่ที่บ้านออกไปรับมาให้
เราอยากรับทานอะไรก็จดตามเมนูที่แนบมาให้ในแฟ้มของบ้านพัก
แล้วก็เอาให้ป้าคนดูแลไปโทรสั่งให้เรา จริงๆที่บ้านพักก็มีโซนปิ้งย่างนะ แต่ขี้เกียจ
กุ้งเผา แกงส้มชะอมกุ้ง ปีกไก่ทอด ทอดมัน ข้าวผัด ปลากระพงทอดน้ำปลา ยำวุ้นเส้น วู้ว
มีเรื่องเซอร์ไพร้สอย่างนึง คือที่บ้านที่เราไปพักมันจะมีโซนศาลาริมน้ำใช่ม้ะ
มันก็จะมีเรือท่องเที่ยวที่พาดูหิ่งห้อยอ่ะ ขับผ่านไปมาเรื่อยๆ
แล้วพอช่วงที่เริ่มมืด เรือแต่ละลำก็จะจอดตรงต้นไม้แถวๆบ้านที่เราอยู่
ซึ่ง แก หิ่งห้อย มันอยู่ตรงนั้น มันอยู่ที่หน้าบ้านชั้น มันมีเต็มเลย
ดีแล้วที่ไม่ได้ซื้อทัวร์หิ่งห้อย เพราะถ้าซื้อ นางก็จะขับเรือมาส่งที่บ้านนั่นเอง
เราไม่สามารถนำรูปต้นไม้ที่มีหิ่งห้อยมาให้ดูได้ ต้องมาดูเองนะ
ตอนแรกก็มีสันนิษฐานว่าเห้ยมันคือดวงไฟหรือเปล่า แต่ไม่จ้ะ มันบิน บินไปบินมา วู้วๆ
นอนตายตาหลับก็คราวนี้ บอกเลยใครจะมานอนอัมพวา เราแนะนำที่พักที่นี่จริงๆ
แต่อย่ามาตอนเราอยากมาก็พอ อิอิ
รับทานอาหารจนอิ่มมาก ก็เป็นเวลาอันสมควรแก่การลงไปว่ายน้ำในสระส่วนตัว
ดีนะอากาศไม่ได้หนาว เราเลยสามารถลงไปเล่นได้อย่างสบายใจ
เล่นน้ำเสร็จก็อาบน้ำไปเล่นเกมกันต่อในบ้าน พอเหน็ดเหนื่อยกันพอสมควรแล้วก็แยกย้ายไปนอน
จริงๆไม่ใช่แยกย้าย เพราะนอนในห้องเดียวกันหมดเลยแบบเข้าค่าย 5555
หลอน ๆ หน่อยแบบพลีชีพ 5555555
(9) Breakfast with Strawberry Jam
ตื่นเช้ามาพร้อมกับอากาศอึมครึม ฝนลงเม็ดเล็กน้อย เราปวดฉี่มากเลยลงไปเข้าห้องน้ำ
แล้วเลยออกไปกินอาหารเช้าเลย กินคนเดียว 55555 คนอื่นยังไม่ตื่น
อาหารเช้าเป็นแบบง่ายๆ ถูกเตรียมไว้ที่ศาลาเดิมที่เรารับทานอาหารเย็นเมื่อวาน
จานชามที่เราใช้เมื่อคืนถูกล้างวางเรียงไว้เรียบร้อย เทคแคร์เว่ออ แงง
คือจะโชว์จานชามที่อยู่ในตะกร้า แต่โดนระเบียงบัง กรรม
อ่ะ เห็นละ แถมราวตากผ้า
โชว์วิถีชีวิตซะหน่อย
ไฮไลท์ของอาหารเช้าอยู่ที่แยมสตรอเบอร์รี่ ที่กระปุกเขียนว่า homemade
อร่อยมาก แบบไม่ใช่แยมผสม มันคือสตรอเบอร์รี่จริงๆ นอกนั้นก็มีโอวัลตินกับกาแฟ
อันนี้เป็นอาหารเช้าแบบ early morning เท่านั้น พอช่วงสายหน่อยก็มีข้าวต้มมาอีกด้วย
อาหารเช้าแบบ early breakfast ที่ถูกจัดเตรียมไว้
แยมสตรอที่รัก รักมาก
แยมของข้า
ขอโทษที ข้าวต้มเซอไปหน่อย
หลังจากอาบน้ำอาบท่าเก็บของ แล้วก็ฟาดข้าวต้มกันไปเรียบร้อย
ทุกคนก็เข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้ง กระจัดกระจายในห้องนั่งเล่น
มันน่านอนเสียจริงเธอจ๋า แต่เราไม่นอนแล้ว เพราะไม่ได้ง่วงเท่าไหร่
ก่อนออกจากบ้านพักเราก็จ่ายค่าที่พักส่วนที่เหลือ ค่าอาหารเย็นเมื่อวาน
แล้วก็ค่าแยมซื้อกลับบ้านได้จ้า เราถามว่าใครทำ ป้าบอกว่าเจ้าของที่นี่ทำเอง
เป็นสาวเหนือ ก็ทำจากนั่นแหละ แล้วส่งมาขายที่นี่ด้วย กระปุกละ 40 บาท
(10) Small Garden Cafe and Bistro
เราออกจากบ้านพักมา ความมุ่งหวังคือไปตลาดน้ำท่าคา แต่พี่แฟ้มต้องการกาแฟ
แล้วก็เป็นความอะไรก็ไม่รู้ของพี่เจ เห็นป้าย Small Garden แล้วก็เลี้ยวเข้าซอยไปเลย
แล้วคิดว่าอยู่ตื้นๆ ที่ไหนได้ ลึกยิ่งกว่าเข้าไปบ้านพักอีก 555555555
เราสั่งแค่น้ำแล้วก็สลัดกับเฟร้นฟราย เหมือนหิวอ่ะ เปล่าเลย อยาก
บรรยากาศท่ามกลางต้นไม้ใบหญ้า
จริงๆมันเป็นคาเฟ่ของที่พักที่ชื่อว่า มะลิดา รีสอร์ท บรรยากาศร่มรื่นดีมาก
รสชาติก็โอเค เหมาะสมกับราคา ขำๆไป
หน้าร้าน
ห้องครัว
(11) อาสนวิหารแม่พระบังเกิด
พี่แฟ้มได้กาแฟแล้ว เราก็ไปต่อยังที่ที่เราหวังไว้ ได้ไปในที่ของคริสตศาสนิกชนจริงๆ
เป็นโบสถ์สวยๆที่ใครผ่านมาก็ต้องแวะนะ เพราะสวยมากจริงๆ
นี่ได้ความรู้ใหม่เกี่ยวกับศาสนาตัวเองมา 1 อย่างด้วย แปลกใจมาก
คือด้านในโบสถ์จะมีส่วนที่เป็นเหมือนแท่นที่ต้องเดินขึ้นบันไดไป
เราก็ถามคนดูแลว่า เอาไว้ทำอะไร เขาบอกว่า สมัยก่อนที่ไม่มีไมค์
บาทหลวงจะทำพิธีที่พระแท่นตามปกติ แล้วขึ้นมาเทศน์บนนี้
เป็นการเลือกมุมเพื่อให้ทุกคนได้ยินทั่วถึงกัน โอ้ว้าว
ภายในโบสถ์
ผนังด้านนอก ส่วนสายยางถือว่าไม่เห็นนะ 55555
แท่นที่เล่าถึง สวยอ่ะ
รูปปั้นนักบุญประจำวันต่างๆ สวยมากกกก
(12) ตลาดน้ำท่าคา
คือใจจริงอ่ะอยากไปร้านนิทานกาแฟ
เลยบอกให้ทุกคนไปตลาดน้ำท่าคา แต่ไม่ได้ศึกษาเวลาเปิดปิดของตลาด
เราเลยไปถึงตลาดตอนบ่าย 2 แล้วมันเงียบมาก มากแบบมากกกกกกก
เราเลยเสิชในเน็ตว่ามันปิดกี่โมง โอ้โห บ่าย 2 พอดีเลยจ้ะ เก่งอ่ะ
หลังตลาดวาย พ่อค้าแม่ค้าก็มีอีเว้นให้เล่นสนุกกัน
เหมือนจะเป็นการโปรยขนมให้พายเรือไปเก็บ
เราเดินเลยเข้ามาข้างในเพื่อหาอาหารเที่ยงรับทานแทน
ได้เป็นก๋วยเตี๋ยวน้ำตกที่มีเส้นกลาง ระหว่างเส้นเล็กกับเส้นใหญ่ให้เราตื่นเต้น
ตื่นเต้นกันทำไม เลยสั่งมากินกันหมดเลย สรุปทั้งหมดกินไปเกือบ 10 ชาม 6 คน เก่งมาก!
ตัวอย่างน้ำตกส้มตำ เย้ย!
(13) นิทานกาแฟ
ตลกมากตรงที่ร้านนิทานกาแฟอยู่ถัดจากร้านก๋วยเตี๋ยวที่เรากินเมื่อกี้
ร้านเล็กกว่าที่เราคิดไว้ และเป็นร้านกาแฟของที่พักอีกแล้ว ที่ชื่อนิทานคำกลอน
ที่พักจะอยู่ด้านใน แล้วมีร้านกาแฟเป็นของตัวเองงอกมาทางตลาดน้ำ
ภาพรวมร้านก็ประมาณนี้ ตอนแรกคิดว่าเป็นร้านใหญ่ๆ แต่เล็กกะทัดรัดดี
เราสั่งน้ำไปแก้วนึงเป็นพิธี จากนั้นก็ได้เวลากลับแล้ว กลับบ้านเถอะ
คิดว่าจบแล้วล่ะสิ แต่ขอโทษนะ กรรมของพวกเรายังไม่หมดแค่นี้
หลังจากออกมาจากตลาดน้ำท่าคา เราก็แวะกลับไปตลาดน้ำอัมพวาอีกรอบ
เพื่อซื้อของฝากกลับไปให้ตัวเองกินที่บ้าน 555555555 คนเยอะกว่าวันเสาร์มากๆๆ
(14) ร้านอาหารบ้านริมน้ำ
ระหว่างทางกลับกรุงเทพ พวกเราที่ตั้งแต่เริ่มทริปยังไม่เคยรู้สึกหิวเลย
เพราะกระเพาะถูกเติมเต็มตลอด ก็เรียกร้องถึงร้านอาหารบนเส้นทางกลับบ้าน
แล้วก็ลองเสิชไปเด๋อๆ เอาร้านที่เราจะไปถึงตอน 6 โมง เพราะกลัวยังไม่หิว
แล้วได้ร้านอาหารบ้านริมน้ำมา หาทางเข้ายากมาก ซึ่งทางที่เราเข้า คนอื่นเขาไม่เข้ากัน
เราสั่งอาหารแบบบ้าคลั่งอีกครั้ง แต่ราคาค่อนข้างแพง แต่อร่อยนะ
น้ำพริกไข่ปู อันนี้ไม่เคยกินที่ไหนเลย อร่อยอ่ะ
ต้มยำที่ไม่เคยได้กินน้ำใส เพราะคนอื่นสั่งน้ำข้นตลอดก็ได้กินแล้ว
ส้มตำปูม้าที่เยอะเกินความจำเป็นมากๆ 555555555555 บ้าบอ
และสมทบด้วย ข้าวผัดหมู กับทอดมันกุ้ง อิ่มจนหาทางกลับบ้านไม่ถูก
หลังจากอิ่มจากที่นี่ หมดตูดกันแล้ว ก็ถึงเวลากลับบ้านของจริง
อ๋อ ไม่มีรูปที่นี่นะ รูปอาหงอาหารอะไรก็ไม่มี หน้ามืดโซ้ยกันไปเร็วมาก
บ้ายบาย ปิดทริป จบปิ๊ง
Comments
Post a Comment