หัวหิน เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ทริปเล็กๆ ทริปเด็กอนุบาล ทริปนานๆ ทริปเด็กป.4
ทริปถี่ๆ ทริปเด็กมหาลัย ทริปทันใจไม่มีใครไปด้วยจ้า จอบอ

เปล่า จริงๆก็ไม่ได้ชวนใคร เพราะจะไปกัน 2 คนว่อย ม่องยุ่ง 555555

คนชอบบอกว่าไม่มีรูปคู่ ลงให้แล้วนะ

ทริปนี้ เป็นการนำน้องมาร์ตี้ รถมาสด้าสองที่พี่เจเพิ่งซื้อมาช่วงสงกรานต์
มาออกแรดอย่างเป็นทางการไปจังหวัดอื่นที่ไม่ใช่กรุงเทพปริมณฑล วู้วๆๆๆ

(ถ้าไม่นับที่พี่เจขับกลับบ้านที่ต่างจังหวัดอ่ะนะ)

เราออกเดินทางจากกรุงเทพประมาณเที่ยง เพราะตอนเช้ามีสอนพิเศษ
มุ่งหน้าไปทางสมุทรสาครแล้วก็ตามนั้น แวะรับทานอาหารกลางวันนิดหน่อยแล้วเดินทางต่อ

จุดแรกที่เราจะไปแวะ ตามแพลนการเที่ยวที่ลอกคนอื่นมาอีกที
คือ Camel Republic ซึ่งมีธีมหลักๆตามชื่อสถานที่เลยคือ อูฐ
ภายในจะมีทั้งหมด 2 ส่วน คือส่วนที่เป็นสวนสัตว์ขนาดย่อม กับส่วนเครื่องเล่นเอ็กซ์ตรีม
เราอ่านราคาบัตรมาจากในเว็บไซต์ ค่อนข้างจะมีราคาสูงนิดนึง
ก็เลยไม่ได้คิดว่าจะเล่นเครื่องเล่นอะไร มาข้างในแล้วค่อยคิดอีกที

CAMEL REPUBLIC
มาถึงแล้วแบบอากาศร้อนมากจนแทบละลายไปกับพื้นถนน
ที่จอดรถก็กว้างขวางมีให้เลือกสรรได้ตามต้องการ แต่ตรงที่ร่มๆจะรถจอดเยอะหน่อย
เราก็ไปหาตรงร่มๆนั่นแหละจอด พอมีเหลืออยู่ที่นึงพอดี โอ้โห
ทางเข้าจะมีช่องให้ซื้อบัตรอยู่ ดูไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่ ก็เดินไปซื้อ คนละ 120 บาท
พนักงานจะแถมอาหารแพะมาให้คนละ 1 ถุง เราก็เอาไปให้น้องแพะข้างในได้

ขอซื้อตั๋วหน่อยจ้า

มีป้ายราคาบอกอยู่ จริงๆเราว่าแอบแพงนะ

แล้วก็มีตารางนั่นนี่

ได้อาหารน้องแพะมาแล้ว

เดินเข้ามาก็จะมีที่ให้ถ่ายรูปบลาๆ เดินตามทางไปเรื่อยๆ จะเจอกับโซนที่เป็นสวนสัตว์ก่อน
หน้ากรงก็จะมีพนักงานยืนอยู่ คอยให้เราซื้ออาหารไปให้สัตว์ในแต่ละกรง
ซึ่งเราก็ซื้อแทบทุกกรงเลย 555555555 ก็นะ ไหนๆก็เข้ามาแล้ว

อันนี้น่ารักมาก หน้าห้องน้ำ

มีรูปพี่เจแล้วนะทริปนี้ 5555

แปลงร่างเป็นนกกกก

เห็นมีคนอื่นมานั่งถ่าย เลยลองไปถ่ายมั่ง พี่เจบอกให้ทำท่าบิดๆ

ฝั่งนี้ก็จะเห็นเครื่องเล่นนิดหน่อย ถามว่าดูอะไรออกบ้างเหรอ 55555

ตรงนั้นคือ อะไรไม่รู้ เดินไปดูไม่ได้ เขาไม่ให้เข้าไปเพราะเป็นเส้นทางขี่อูฐ

ตัวแรกที่เราเจอ ก็คือ น้องอูฐ พระเอกของสถานที่นี้ กำลังรับทานพืชผักอยู่
แล้วก็มีให้ขี่ด้วย แต่เราไม่ได้เข้าไปขี่เพราะกลัว 55555555555

นี่ไงน้องกำลังรับทานพืชผัก

น้องหันหน้ามาพอดีเลย จริงๆอาจจะเป็นพี่ก็ได้นะ

ตัวต่อไป ม้าแคระ มีอยู่ 2 ตัว ตัวนึงยืนอยู่แบบไร้การเคลื่อนไหว
อีกตัวกำลังกินใบไม้ของต้นไม้ที่เป็นต้นตกแต่งอ่ะ แบบเป็นรั้วงี้ แทะใหญ่เลย

ตัวนี้คือน้องไร้การเคลื่อนไหว

ต่อไป เจ้าแพะ เจอแล้ว มีตัวนึงเดินเล่นอยู่ข้างนอกด้วย น่าจะเป็นตัวชูโรงได้ดีเลย
เจ้าแพะพวกนี้ชื่อพันธุ์ แองโกร่า อยู่กันแบบแย่งกันกิน ใครเขาใหญ่ก็ออกมาไม่ได้
เราก็เทอาหารที่ได้แถมมาใส่ขัน แบบมีหูจับ เพื่อให้น้องๆได้รับทานจากในนั้น
ซึ่งทุกตัวก็ได้ถูกโปรแกรมมาว่า ถังคือที่ใส่อาหาร ต่อให้ไม่ได้ใส่ลงไป มันก็พยายามจะกิน

ที่โผล่หัวออกมาจากกรงอยู่อย่างนั้น ไม่ใช่ไรนะ กลับเข้าไปไม่ได้ ติดเขา

อ่ะ โชว์ยืนสองขาซะหน่อย แพะเหรอ เราเนี่ยแหละ อิ้

โซนนี้เด็ดมาก มวลมหาประชาเป็ด ถามว่าเด็ดยังไง เพราะน้องอึ๊ใส่พระบาทข้าพเจ้าจ้า
แต่เจ้าหน้าที่ก็เปิดน้ำให้ล้างอย่างดี ขอขอบพระคุณ อันนี้เราก็เข้าไปให้อาหาร
แบบบโปรยบนพื้น หรือโปรยลงน้ำก็ได้ ซึ่งการโปรยลงพื้นมันจะเด้งไปมา เราไม่ชอบ
เลยไปโปรยลงน้ำหมดเลยแทน น้องเป็ดก็จะตามไปกินทุกที่สืบไปปปป

เป็ดหลายหลายสายพันธุ์มารวมกัน

และหงส์เหรอ หงส์แหละ ไม่น่าใช่ห่านอ่ะ

ต่อไป เป็นกรงที่เกือบจะมองข้ามไปแล้ว เพราะไม่มีใครไปมุงเลย เจ้าพาตาโกเนียนมาร่า
ชื่อยากมาก เหมือนหมาบวกกระต่ายบวกกวางบวกหนู หลายสิ่ง นี่ก็มีชีวิตเป็นของตัวเองมาก
เรียกก็ไม่หันไม่หือไม่อืออะไรทั้งนั้น สงสัยนอนกลางวันกันอยู่ ก็เลยข้ามไป

บ้ายบายพาตาโกเนียนมาร่า ชื่อยากจริง 555555

ตัวนี้พี่เจเห็นแล้ววิ่งปรี่เข้าไปทันที น้องอัลปาก้าสุดที่รัก อยากให้อาหารมาก
เกิดอาการดีดดิ้นเกินเหตุ แถมยิ้มให้แบบตาปิดตอนกำลังเอาแครอทให้น้องกิน 555555
นี่ไม่ได้พูดเกินจริงนะ มีหลักฐาน ไปดูดิ ดูดิ ดูดิ มีความสุขมากมั้ย หื้มๆๆๆ

น้องชื่อกังฟู ตอนที่คนเลี้ยงเรียกคือน้องชูคอแล้ววิ่งปรี่มาเลยตลกมาก

ดูสีหน้ามีความสุขของเจ้าเจ

ส่วนเราก็ยื้อแย่งแครอทกับน้อง

กังฟูหล่อมั้ยครับ :3

แวะชมดอกไม้ใบหญ้ากันซักหน่อย

ถัดจากอัลปาก้าเป็นเจ้ายีราฟ ที่ดูเหงาหงอยนิดหน่อย มีกันอยู่ 3 ตัว
ตัวนึงนอนอาบแดดอยู่ อีก 2 ตัวไปรับทานกล้วยที่นักท่องเที่ยวเอามาให้
คือเขาติดป้ายไว้ว่า ห้ามเอามือไปจับ นี่ก็เลยเดินไปใกล้ๆ เพื่อจะถ่ายรูป
แต่น้องกำลังเลียพื้นที่ไม่มีอะไรวางอยู่ ไม่มี ไม่มีเลยเจ้าค่ะ ไม่มีแม้แต่อาหาร
แล้วก็ผงกหัวไปมา นี่ก็กลัวว่าจะไปโดน หรือน้องจะเอาหัวมาฟาด เลยได้รูปแบบกล้าๆกลัวๆ

ดีจ้า

เอ่อ อ่า เอ่อออ ...

ต่อจากยีราฟ เป็นสวนนก ที่เล็กกว่าชัยนาท (บ้านพี่เจ) แต่เปี่ยมด้วยคุณภาพ หยอกๆๆ
ในนั้นก็จะมีนกหลายพันธุ์ที่อยู่ในกรงอีกที แต่จะมีนกแก้วมาร์คอร์ที่อยู่ข้างนอก
ดูโหดๆ เลยไม่กล้าไปถ่ายรูปด้วย ได้แต่ถ่ายน้องมาเดี่ยวๆ 55555555555

นี่นกอะไร

นี่ไงมาร์คอร์

ตรงทางออกจะมีกรงนกตัวเล็กสีสันสดใสน่ารัก ที่เสียงมันเจื้อยแจ้วมาก ชื่อนกซันคอร์นัว
ตอนแรกเดินออกไปแล้ว แต่ไปยืนมองแล้วรู้สึกว่าอยากเข้าไป เลยกลับเข้าไป
ซื้ออาหารไปให้ เจ้าหน้าที่ก็เทเมล็ดทานตะวันใส่มือเรา แล้วบอกว่าให้กำไว้ก่อน
พอเข้าไป นกทุกตัวก็บินมาเกาะที่มือ บ้า ไม่ทุกตัวขนาดนั้น แต่หลายตัวอ่ะ
แล้วก็มากินเมล็ดทานตะวันในมือเรา น่ารักม๊ากมาก ชอบที่สุดในบรรดาทุกตัว
แต่เล็บน้องก็จะจิกลงมือมากหน่อย เจ็บอยู่แต่ไม่เลือด 555555

ฝูงนกผู้หิวโหย

แงน้องน่ารักมาก เจ้านกกกก

ถ่ายภาพรวมซะหน่อย

ออกมาจากสวนนกขนาดย่อม ก็มาเจอฝูงฟลามิงโก้ เป็นชนิดสุดท้ายของพาร์ทสวนสัตว์ละ
อันนี้ก็ให้อาหารด้วย ฟลามิงโก้คือรับทานนานมาก แบบเมื่อไหร่จะหมดดดด แงง
มีตัวนึงสีชมพู อยากไปถ่ายรูปด้วย แต่นางไม่สนใจ เดินหนีไปตลอดเวลา
ส่วนตัวอื่นๆ เวลามากิน ก็จะขู่กัน ตีกัน แบบตัวไหนกร่างๆหน่อยก็ชนะ ได้กินคนเดียว ตีเลย

ตัวนี้กร่างมาก ชูคอใส่ทุกตัว พี่เจยังโดนเข้าใจผิดคิดว่าจะไปแย่งกิน

ในกรงมีตัวสีชมพูอยู่ตัวเดียว อยากให้อาหาร อยากถ่ายรูปด้วย แต่โดนเมิน

ถ่ายกับตัวอื่นก็ได้ วุ้ยย

หมดโซนสวนสัตว์เราก็เดินเล่นดูเครื่องเล่นนิดหน่อย ไปเจอเครื่องที่มันชื่อ อีเกิ้ลซิปไลน์
กลัวนะ แต่อยากลองเล่น พอไปถามราคา คนละ 240 บาท 2 คน 480 กู้ดบายจ้า
เอาความกลัวไปแลกกับมูลค่ามากขนาดนั้น ก็ต้องบ้ายบายก่อนบ้ายบาย

ถ่ายรูปกับต้นไม้ใบหญ้าแทนก็ได้ เชอะ

หรือจะเป็นขั้นบันไดพิศวง (ตั้งชื่อเอง 555555)

สีสันมันสดใสเกินเบอร์มากจริงๆ

ภาพบนผนังก็จะอินเดียๆตามธีมอูฐ

ก่อนเดินออกก็ถ่ายภาพเครื่องเล่นมาเครื่องนึง เครื่องนี้คนละ 240 บาท ไม่ได้เล่นจ้า

ความทุ่มทในการถ่ายรูปเครื่องเล่นของพี่เจ

บ้ายบายจ้า Camel Republic

เราจองที่พักไว้ที่ COCONUT BUDGET & BOUTIQUE ซึ่งจองจากรีวิวของคนอื่นอีกที
เป็นห้องสไตล์ลอฟ์ท มีผ้าขนหนู สบู่ยาสระผม ไดร์เป่าผม น้ำเปล่า 2 ขวดให้
มีอาหารเช้าแบบย่อมเยาว์ มีมอเตอร์ไซค์ให้เช่า และมีตู้คีบตุ๊กตาที่เรารัก
แต่ตู้คีบตุ๊กตาเนี่ย เก่ามาก แบบเลื่อนและกดยากมาก 5555555555
ส่วนตัวเราชอบนะ มีทีวีให้ดู แต่ที่นอนนิ่มไปนิดนึง นอนแล้วปวดหลังหน่อยๆ

ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปดีๆของห้องมาเท่าไหร่ แต่ลองกดเข้าไปดูในเว็บได้

เก้าอี้นี้จะอยู่ข้างล่าง

โดยรวมก็น่ารักดีนะ

หลังจากเก็บของเรียบร้อย เราก็ไปเดินเล่นที่ชายหาดหัวหิน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พักเราเท่าไหร่
ด้วยความที่ไม่อยากขับรถไปหาที่จอดยากๆ เราก็เลยเช่ามอไซค์แบบรวยๆ
เช่าจากที่พักที่บอกนั่นแหละ คนมันเคยแว๊นอ่ะ ก็ต้องแว๊นกันต่อไป 555555
มาที่ชายหาด เริ่มมีคนเยอะขึ้นมาหน่อยละ แต่ก็ยังสามารถถ่ายรูปแบบไม่ติดคนอื่นได้อยู่
รอบนี้พี่เจถ่ายรูปเก่งมาก ดีมาก ไปฝึกฝนเพิ่มเติมมาเพื่อเราโดยเฉพาะ 555555555

บริเวณหาดก็จะมีคนไม่เยอะมาก อาจจะเป็นเพราะเล่นน้ำไม่ได้

สวยอ่ะ เราชมตัวเองนะ

คือคนน้อยจนถ่ายแบบไม่ต้องรอให้ไม่ติดคนอ่ะ

เล่นน้ำไม่ได้ก็ไปขี่ม้าเอา

ทุกคนก็จะตั้งใจถ่ายรูปกันทั้งแถบหาด

เดินเล่นชิวๆกันไป

พี่เจขอทดสอบประสิทธิภาพกล้องที่ไปฝึกฝนมานิดนึง

จะเป็นช็อตวิ่งก็เอาอยู่ สุดยอดจริงๆพี่เจ

ต้นไม้ที่ล้มลงตอนเราพิง หลอกกกแหละ แต่คนอาจจะเชื่อ

หลังจากแดดร่มลมตกแสงหมด เราก็ขึ้นจากหาด กำลังจะไปตลาด
แต่แล้วตรงสี่แยกดันมีร้านพิซซ่า เอ้า ก็เลยต้องเข้าไปกิน 555555555
เหมือนเป็นธรรมเนียมในการมาทะเลของเราไปแล้วว่าต้องกินพิซซ่า
ชื่อร้านว่า PIZZA DA ROBERTO ที่ไม่มีประชากรไทยมารับทานนอกจากเรา 2 คนอ่ะ

พิซซ่าซีฟู้ดที่รัก แง ปลาหมึกกกกก

กลัวจะดูเป็นคนอ้วนเกินไปเลยสั่งสลัดมาแก้กัน

หลังจากรับทานเสร็จ อิ่มมาก เราก็มุ่งหน้าไป CICADA MARKET
ที่เขารีวิวกันว่า เป็นตลาดชิคๆ เราก็อยากรู้ว่าชิคยังไงก็เลยไปดู
ซึ่งมันก็ดูชิคจริงแหละ ก่อนเราเข้าไป เราเอามอไซค์ไปจอดที่ตลาดข้างๆ
ชื่อ TAMARIND MARKET ทำให้เราเจอกับแตงโมปั่นที่น่ารักมากๆ แค่นั้นแหละ 55555

อร่อยน่ารัก ในราคา 60 บาท แต่อยู่ Tamarind Market นะ

เดินมาเข้าตลาดซิเคด้า ก็ไม่รู้จะเริ่มเดินจากไหน เดินไปมั่วๆ แล้วไปเจอตรงที่เหมือนโรงละคร
ซึ่งมันคือโรงละครจริงๆ ชื่อว่า CICADA AMPHITHEATER เป็นโรงละครเวที
กำลังจะมีการแสดงเรื่อง แก้วหน้าม้า เดอะมิวสิคัล เริ่มแสดงตอน 2 ทุ่มครึ่ง
ซึ่งตอนที่เราไป ก็ประมาณ 2 ทุ่มพอดี เลยลองไปเดินๆดูว่าเขามีอะไรเป็นยังไง

เวทีที่มองเผินๆอาจจะดูไม่มีอะไร แต่อลังการงานสร้างมาก มากสุด

คนดูเต็มฮอลนะจ๊ะ

ซีนโรแมนติก

นักแสดงเก่งและทุ่มเทมาก น้องนางเอกอายุแค่ 18 เอง สุดยอด

หน้าทางเข้าจะมีเจ้าหน้าที่ชี้แจงและให้ลงทะเบียนรับบัตรอยู่

การจะเข้าไปดูได้ เราจะต้องกดไลก์ และแชร์โปสเตอร์ของละคร แล้วจะได้บัตรฟรี
แต่มีที่นั่งจำกัดนะ เขาก็จะเขียนเลขที่นั่งไว้เลยว่าจะให้นั่งตรงไหน เราก็เข้าไปนั่งตรงนั้น
ซึ่งเรียกว่าเป็นสิ่งที่เราประทับใจที่สุดในทริปนี้เลยก็ได้ เพราะมันสนุกและดีมากๆ
เราเคยดูแก้วหน้าม้าเวอร์ชั่นอื่นนะ แต่เวอร์ชั่นนี้ถูกใจที่สุด ชอบเวทีและฉากมาก
ถ้าใครอยากรู้ว่ามันขนาดไหน แนะนำให้ไปดูละครเรื่องต่อไป เพราะแก้วหน้าม้ารอบหมดไปแล้ว
ถ้าใครมีโอกาสไปเที่ยวหัวหินอีก อยากให้แวะไปดู เวลาการแสดงก็แค่ 1 ชั่วโมง
แต่อิ่มมาก แบบปลื้มปริ่มใจ มันดีอ่ะ ดีจนไม่รู้จะบอกยังไงแล้ว

พอดูละครจบ เราก็เดินวนๆในตลาดซิเคด้านิดหน่อย ก็ไม่มีไรมาก

ตลาดค่อนข้างกว้างนะ แบบมีร้านเยอะมาก จนเดินไม่ไหว

มีสินค้าหลายแขนง

มีลานดนตรี นั่งชิวได้สบายๆ

มีโซนศิลปะ

ซิเคด้าไปก่อนนะจ๊า

จากนั้น เนื่องจากในแพลนของเรามีแปะตลาดโต้รุ่งมาด้วย ก็เลยลองแว๊นไปดู
มันไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ เหมือนถนนข้าวสารที่กรุงเทพ เลยไม่ได้ถ่ายรูปอะไรมาเลย
คือเหมือนจนแบบ มีโซนนึงที่เหมือนตรงร้านสุกี้ที่ขายกับโจ๊ก แล้วอยู่หน้าเซเว่นอ่ะ
จบวันแรกไปแบบประทับใจละครที่สุด 555555

ตื่นเช้าวันอาทิตย์เรามีแพลนใหญ่คือการไป สวนน้ำวานา นาวา วอเตอร์ จังเกิ้ล
แล้วด้วยความที่คิดว่าคนจะต้องเยอะแบบตลาดแตก เลยแอบซื้อบัตรจากในเว็บไซต์มาก่อน
เป็นโปร Buddy Splash ราคา 2,200 บาท 2 คน ในนั้นจะได้ล็อคเกอร์ 1 ตู้ ผ้าขนหนู 2 ผืน
เวลคั่มดริ้งค์ที่อยู่ในฟลามิงโก้ แบบเอาเครื่องดื่มไปลอยน้ำได้ แล้วก็ดิจิตอลไฟล์รูปถ่าย 1 รูป

ก่อนที่จะออกไปเล่นน้ำ เราก็เช็คเอ้าท์ คืนมอไซค์ แล้วก็ไปสถานีรถไฟหัวหิน
ที่มีร้านกาแฟ Hua Hin Coffee Station เหมือนคนอื่นรีวิวว่าต้องไป แต่ก็ไม่มีอะไรนี่

ผู้คนกำลังรอรถไฟมา แต่ตอนมาแล้ว ไม่เห็นมีใครขึ้นเลยอ่ะ

เห็นคนอื่นชอบถ่ายกับป้าย ถ่ายมั่ง

เนี่ย รถไฟคันเนี้ย ไม่ได้รับใครไปซ้ากคน แต่มีคนลงมาจากรถไฟนะ

ร้านกาแฟที่คนรีวิวเยอะมากว่าต้องมา

ข้างในก็มีอย่างอื่นนอกจากเครื่องดื่มขายด้วย

จากนั้นเราก็ตรงไปวานา แต่ว่า กลัวกินข้าวเที่ยงข้างในแล้วแพง เลยออกมาไปหาข้าวก่อน
เราลองไปตลาดน้ำสามพันนาม คิดว่าคงของกินเยอะแน่ๆ แต่มันเงียบมาก
เราก็เลยไปยิงปืนเล่น ได้ตุ๊กตามา 4 ตัวแบบงงๆ แล้วก็ให้อาหารปลาไปถุงนึง 55555

แดดร้อนมาก

จ้าสุดๆ

ไม่ค่อยมีคน

บอกให้ถ่ายตอนให้อาหารปลาดีๆ ว่อย!

ตรงโซนร้านอาหารมีเปิดอยู่ 2 ร้าน เราเลยกินอาหารตามสั่งกัน แล้วก็กลับไปวานาอีกที

VANA NAVA WATER JUNGLE
มาถึงแล้ว จะได้เล่นซักที คนไม่เยอะเท่าที่เราคาดไว้ ทั้งๆที่เป็นวันอาทิตย์
และส่วนมากก็จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งตามเคย ทุกคนเข้าใจว่าเราเป็นด้วย
สปีคอิงลิชใส่น้องไฟแลบเลยจ้า คงคิดว่าซักชาติในเอเชียเนี่ยแหละ

เดินไปตรงหน้าเค้าท์เตอร์ก็แจ้งพนักงานว่าจองมาแล้ว แจ้งชื่อไปว่า ชื่ออะไร
พนักงานก็จะให้ริสแบนด์ เอาไว้แตะล็อกเกอร์ แล้วก็เติมเงินซื้อของ
ให้ผ้าขนหนูคนละผืน แล้วก็คูปองรับเวลคัมดริ้ง กับไฟล์รูป

คูปองรูปและเวลคั่มดริ้ง ริสแบนด์ และผ้าขนหนูตามลำดับ

ตรงทางเข้าข้างใน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็จะตรวจกระเป๋าของเราด้วย
เข้าไปกันเล้ยยย เริ่มแรกเราก็ตรงไปที่ห้องน้ำ ซึ่งชอบมากตรงที่ล็อกเกอร์เป็นแบบรวม
อยู่นอกห้องน้ำ ไม่ต้องแยกหญิงชาย ถ้ามาด้วยกันแบบต่างเพศ ก็ใช้ร่วมกันได้เลย
(แบบบางสวนน้ำที่เคยไป มันจะมีล็อกเกอร์ในห้องน้ำ ต้องเช่าแยกชายหญิงงี้)

เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็ไปตามหาเวลคั่มดริ้งกัน ตอนแรกไม่รู้ว่ามันจะเป็นคอกเทล
ไม่งั้นจะมาดริ้งทีหลัง แต่ก็อร่อยดี มึนๆหน่อยนึงไม่มาก 555555555
ดริ้งเสร็จเราก็ไปเริ่มเล่นน้ำ ซึ่งสวนน้ำก็จะมีโซนเนาะ เราก็ไปตามโซนต่างๆแหละ
เริ่มจากตรงที่ทำคลื่นเหมือนทะเล เป็นแฟมิลี่โซน ไม่น่ากลัว ไม่วี้ดว้าย เล่นได้ทั้งบ้าน

น้ำทะเล

พยายามถ่ายรูปใต้น้ำ แต่น้ำเขียวเหลือเกินนนน

จากนั้นก็ไปเดินดูตรงนั้นตรงนี้ มันจะมีโซนที่ดูซอฟต์ๆหน่อย แต่ผู้ใหญ่เล่นด้วยได้
ลองไปเล่นสไลเดอร์มาทีนึง เออมันดีอ่ะ เล่นกันแบบเบาๆ ไม่ต้องกรี๊ดให้คอแตก

หลังจากไหลๆตามน้ำไปพักนึง เราก็ตัดสินใจเริ่มเล่นเครื่องเล่นต่างๆ
ซึ่ง เป็นบ้าอะไรกันก็ไม่รู้ เลือกเล่นอันที่คาดว่าน่าจะโหดสุดในนั้นแล้วมั้ง เป็นอันแรก
(ขออนุญาตนำภาพจากเว็บไซต์จริงของทางสวนน้ำมาแปะเพื่ออธิบายค่ะ)

01 AQUALOOP

เริ่มต้นด้วยเครื่องบ้านี่แบบไม่รู้คิดอะไร มันจะอยู่ชั้นสูงสุด

เราก็เดินขึ้นไปแบบ ไม่ได้เอาห่วงยางไปเล่นเครื่องอื่น

แล้วก็มุ่งมั่นมากว่า เอ้ยไปอันสีน้ำเงินนั่นดิ

พอขึ้นไปถึง เกิดอาการขาสั่นใจสั่น แต่ก็ขึ้นมาแล้ว

แกเอ๊ยยย คือเหมือน giant drop แบบเปียก ไม่มีเสียงจะกรี๊ด

02 MASTER BLASTER

อันนี้จะเสียวเป็นพักๆ เราเลือกเล่นแบบห่วงยางคู่

มันจะมีลงแล้วขึ้น 2 ลูป แล้วก็ลงไปยาวๆ อันนี้กลางๆ

03 INNER-TUBE

อันนี้ธรรมดามาก เราขี้เกียจรอห่วงคู่ เลยหยิบห่วงเดี่ยวมากัน 2 คน

แยกรอบกันไป แต่มันเป็นสไลเดอร์ที่ไม่มีอะไร ไหลๆเฉยๆ

04 RATTLER

อันนี้ต้องใช้ห่วงยางเป็นวงใหญ่ๆ มีที่นั่งข้างในสำหรับ 4 คน

ซึ่งการจะแบกขึ้นไปนั้น มันยากเย็นเสียเหลือเกิน

แบบมันหนักมากกก ต้องกลิ้งขึ้นบันไดไปเรื่อยๆ แขนล้าพอดี

อันนี้ก็ไม่มีไรมาก เหวี่ยงๆ นิดหน่อยตอนปลายทาง

05 BOOMERANGO

เราชอบอันนี้ที่สุด เป็นเครื่องเล่นหมู่ที่ต้องมากกว่า 3 คน

และน้ำหนักรวมขั้นต่ำ 200 มั้ง แต่เล่น 4 - 6 คนจะเหมาะสมที่สุด 

เพราะมันจะถ่วงกันได้ดีมาก อย่างรอบเราก็ 6 คนพอดี

06 ABYSS

อันนี้จะเป็นบูมเมอแรงที่เพิ่มรอบแต่ลดความแรง

ต้องเล่น 4 - 6 คนเหมือนกัน ไม่งั้นมันจะค้างอยู่ข้างใน

เสียวตอนตกจากท่อมาเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาเนี่ยแหละ

หมดเครื่องที่เราเล่นละ

FREEFALL

อันนี้คือเครื่องที่เล่นคนเดียวเหมือนกัน แต่พอได้สัมผัสอะควาลูปแล้ว ขอบาย

คือไม่อยากเล่นคนเดียว รู้สึกโดดเดี่ยว เหมือนเอาชีวิตไปทิ้ง 555555

SUPERBOWL

อันนี้เครื่องปิดเลยไม่ได้ลอง ตอนกลับมาเลยไปเปิดคลิปลองดูว่ามันเป็นไง

ก็น่าจะไม่โหดมาก อาจจะเวียนหัวนิดหน่อยด้วย 555555555

หลังจากเล่นเครื่องเล่นไปแล้ว เราก็ไปไหลๆ กับ lazy river ต่อ

จากนั้นก็ไปหาอะไรกินอยู่ดี เพราะพี่เจร้องว่าหิว หิว หิว อาหารข้างในแพงมาก ร้อง

กินเสร็จเราก็ไปไหลแม่น้ำต่อ 2 รอบ เพราะแม่น้ำมันก็ยาวมากอยู่ประมาณนึง

แล้วเราก็ได้ฤกษ์กลับ ไปอาบน้ำ เป่าผม คืนผ้าขนหนู แล้วไปรับไฟล์รูปที่พนักงานข้างในถ่ายให้

ตอนแรกเราก็คิดว่า เห้ยเค้าจะให้ไฟล์เรายังไง ขอเมลล์เหรอ แต่วิธีคือง่ายมาก

เขาจะมีการ์ดเป็น QR code กับรหัสรับรูปในเว็บมาให้ ในเว็บ my-snapps 

เราก็แค่ไปโหลดมา แต่มีเวลาให้แค่ 14 วันในการดาวน์โหลดนะ

เรามาชมภาพที่ได้จากวานานาวากันค่ะ นึง ส่อง สั่ม แช้ะะะ

ขอท่ากระโดดหน่อยครับ

ออกจากวานาเราก็ไปหาอะไรกินแถวหาดตะเกียบ คือดูในรีวิวมาว่า

มีร้านให้จิ้มเยอะมาก เราก็วนไปวนมาแล้วเลือกร้าน บ้านทะเลดาว (ฺBAAN TALAY DAO)

มีรถกอล์ฟรับส่งจากหน้าทางเข้าที่จอดรถ ไปตรงโซนที่พักและร้านอาหารด้วย

อาหารอร่อยดี เราสั่งมา 4 อย่าง หนึ่งในนั้นมีกุ้งเผา ที่อยากกินแบบผ่าหัวอ่ะ

แต่ที่สั่งมาเป็นกุ้งเผาธรรมดา กินไม่หมดด้วยนะ เพราะกินข้าวในวานามาแล้ว

แต่ห่อกลับบ้านไปกินต่อได้ นอกนั้นก็มีต้มยำ ตำผลไม้ และไก่ทอดซอสมะนาว

ต้มยำกุ้งน้ำข้น จริงๆไม่ค่อยชอบกินน้ำข้น แต่เถียงไม่ทัน

ส้มตำผลไม้ พนักงานบอกว่า รสอาจจะไม่จัดเพราะไม่ใส่ผงชูรส

ชิมเข้าไปคำแรก เค็มเชียว สงสัยกลัวรสไม่จัด แต่ก็อร่อยนะ 5555555

กุ้งเผาครึ่งโลกินไม่หมด T^T ลืมถ่ายไก่ทอดซอสมะนาวนี่แก

พกคนแกะกุ้งมาด้วย

กินเสร็จ ยิ้มเจื่อน แบบอิ่มมากจ้าไม่ไหวแล้ว

กินเสร็จแล้วก็คืออิ่มมาก มากจนไม่สามารถแขม่วพุงไว้ได้ กางเกงก็จะแตกออกแล้ว

จุดสุดท้ายที่เราวางแผนไว้ว่าจะมาคือ เพลินวาน แต่ก่อนจำได้ว่ารถติดมากกกกกก

แต่เดี๋ยวนี้ก็เงียบๆ มีเปลี่ยนธีมเป็นบางแสนด้วย คือร้านค้าเงียบเหงามาก

จนเราแอบคิดว่า เขาอยู่กันได้ใช่มั้ย เขาขายได้คุ้มค่าเช่าใช่มั้ย ฮือ

ครั้งล่าสุดที่มาประมาณ 3 ปีที่แล้วได้ คนเยอะมาก และยังไม่ใช่ธีมนี้

อันนี้เป็นทางเข้าด้านหลังตรงลานจอดรถที่ไม่ใช่ของเพลินวานเลยต้องเสียเงิน 40 บาท

นี่ยังไม่ดึกนะ คนน้อยมาก หรือคนจะต้องเยอะวันเสาร์งี้

หัวหิน ธีมบางแสน

พี่เจบอกให้ทำท่าหลบคลื่น

ขอท่าแอ๊บหยิบของหน่อย

อยากถ่ายให้ชิงช้าสวรรค์สวยๆ แต่เราสวยกว่าโทษทีนะ

มีม้าหมุนแล้วด้วยอ่ะ โอ้วมายก้อด ต้องเสียเงินขึ้นไปไม่รู้กี่บาท

คือทั้งหมดทั้งมวลเนี่ย เราคิดตลอดการเที่ยวเลยว่า คนไม่มาหัวหินกันแล้วเหรอ

5555555555555 คนมันน้อยกว่าที่คิดไว้มาก แต่สมัยนี้ที่เที่ยวใหม่ๆก็เกิดขึ้นเยอะแล้วอ่ะ

สถานที่ต่างๆ เราแปะลิ้งไว้บนชื่อ ถ้าจะเข้าไปดูเว็บ กดที่ชื่อของสถานที่นั้นๆได้เลย

เราลืมเล่าเรื่องอาหารเช้าของที่พัก แต่ไม่รู้จะไปแทรกตรงไหน ไม่อยากแก้ใจความข้างบน
555555555555555 คือมันเป็นอาหารเช้าแบบซอฟต์ๆ คือมีขนมปังปิ้ง ทาแยมกับเนยจืด
แล้วก็มีโอวัลติล กาแฟ ประมาณนี้ แล้วก็ไปนั่งกินตรงลอบบี้ของโรงแรม แค่นั้นแหละ

จบละ กลับบ้านนอน

พี่เจพกเสาอากาศมาด้วยเหรอ