เราไปดู Avatar Discover Pandora 2017 มา

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 กันยายน 2560 เราได้มีโอกาสไปเดินเที่ยวนิทรรศการ
ที่มีชื่อว่า Avatar Discover Pandora ที่ยกเอาสิ่งต่างๆบนดาวแพนดอร่า
จากภาพยนตร์ที่ใครหลายคนก็ต้องเคยดูอ่ะเนาะ คือเรื่อง อวตาร นั่นเอง

ซึ่งจุดเริ่มต้นที่เราสนใจที่จะไปเนี่ยมันมาจากช่วงที่เราหางานประมาณ 2 เดือนก่อน
แล้วงานนี้ก็หาสตาฟไปทำงานพอดี เราก็ได้คอนแทคมาจากพี่ที่รู้จักอีกทีนึง
ก็เลยส่งคลิปไปสมัคร แนะนำตัว ผลงาน บลาๆอะไรก็ว่าไป
แล้วก็ได้รับการเรียกไปเทรนนิ่ง 2 วัน แต่ว่าสถานที่จัดเนี่ยนับว่าไกลแสรดดด
ที่เดอะมอลล์บางกะปิ ซึ่งถือว่าไกลจากดินแดนรามาทูหรือที่รู้จักกันในนามพระราม 2 เนี่ยมากๆ
ทำให้เราตัดสินใจปฏิเสธหลังจากไปเทรนได้ 1 วัน คือไม่อยากเดินทางลำบากดึกดื่น

แต่ 1 วันนั้นก็มีฝรั่งจากทีมงานของอวตารมาเทรนว่าในงานจะมีอะไรบ้าง
เราต้องทำอะไรบ้าง ลูกค้าจะเจออะไรบ้าง ต้องรับมือยังไงบ้าง อะไรงี้
เราก็เกิดความสนใจในตัวนิทรรศการขึ้นมาว่า
เอออย่างน้อย ถ้าไม่ได้มาทำ ก็คงต้องมาดูซักครั้งนึง ว่ามันจะเป็นยังไง

ตอนแรกก็คิดว่า คงมาซักสัปดาห์นึงระหว่าง 2 เดือนที่นิทรรศการมี
แต่ไปๆมาๆก็ดูจะไม่ได้มาแล้ว จนกระทั่งสัปดาห์สุดท้ายของการจัดงานมาถึง
เราก็แบบ เห้ยอยากไปดูนะ เลยไปเร้าพี่เจ บอกว่าเราจะไปซื้อบัตรละนะ
เลยเสิชเผื่อเจอโปร ก็เลยเจอโปร 1 แถม 1 ของผู้ใช้บริการเอไอเอสที่เราใช้
วันสุดท้ายของโปรพอดี 31 สิงหาคม เรานี่แบบ โอ้โห ถ้าตัดสินใจพรุ่งนี้คือจบ

ก็เลยกดสั่งซื้อผ่านทางเอไอเอสเลย ชำระเงินออนไลน์ไป
ทำตามขั้นตอนการรับรหัส จบ แล้วก็รอมารับบัตรวันที่มาชมนิทรรศการ

พอมาถึงก็พบว่าหน้างานมีขายบัตร 1 แถม 1 ด้วย แต่ต้องเป็นลูกค้า M card กับ AIS
แต่ก็ซื้อมาแล้ว ชิวๆอยู่แล้ว ก็ไปติดต่อรับบัตรที่หน้าเค้าท์เตอร์
ทีนี้เนี่ย ในเว็บที่เราสั่งซื้อมันจะมีบอกว่า ให้เอารหัสสั่งซื้อ 18 หลักที่ได้มา
ไปจองคิวในแอพ QueQ ได้เลย สะดวกสบายสไตล์มยุราอะไรเบอร์นี้
เราก็จะเป็นคนมีบัตรมีคิวก่อนจะมาถึงวันเข้าชมอยู่แล้วนั่นเอง

ในแอพก็จะขึ้นแบบนี้ถ้าเราจองเอาไว้แล้ว มาหน้างานก็โชว์พนักงานได้เลย

ทำไมต้องจองคิว เพราะว่า ในการเข้าไปชมเนี่ย มันจะมีรอบการชมวิดีทัศน์ก่อน 2 ห้อง
ห้องแรกจะมีวิทยากร ส่วนห้องที่ 2 จะเป็นวิดีโอให้ดู จึงต้องให้เข้าเป็นรอบเพื่อเปิดทีเดียวนั่นเอง

พอถึงเวลาที่เราจองเอาไว้ พนักงานก็จะประกาศเรียกรอบที่ถึงแล้วตอนนั้นว่าให้มารวมกัน
เพื่อฟังคำอธิบายเบื้องต้นเรื่องการใช้บัตร เพราะตอนที่เราไปแลกบัตรหรือซื้อบัตรมา
เราจะได้บัตรมา 2 ใบ ต่อคน เป็นบัตรแข็งกับบัตรอ่อน ใช้ต่างกัน
ใบแรกบัตรอ่อน จะเอาไว้ผ่านประตู ให้พนักงานเจาะบัตร แสดงว่าใช้บัตรเข้างานแล้ว

โทษที ภาพถ่ายกับบัตรเด๋อไปหน่อย 555555

มันจะเป็นบัตรยาวๆ มีลำดับบัตรอะไรเทือกนั้น พนักงานก็เจาะๆ

ส่วนใบที่ 2 บัตรแข็ง ใบนี้จะเป็นลูกเล่นของงาน ที่จะให้เราบันทึกข้อมูลของเรา
จากที่ได้เล่นเครื่องข้างใน เป็นการแชร์ข้อมูลเข้าไปใน email ที่เราลงทะเบียนกับบัตร
ซึ่งผู้เข้าชมจะเลือกลงทะเบียนหรือไม่ลงทะเบียนก็ได้ ทางเข้าจะมี 2 ช่องทางแยกไว้เลย

บัตรแข็งแทรกอยู่ในมือรูปข้างบนอ่ะ 55555555555555 ขนาดเท่าบัตรทั่วไป มีบาร์โค้ด

ถ้าลงทะเบียนก็เข้าช่องนี้ ส่วนไม่ลงเราไม่ถ่ายเพราะเราจะลง

ถ้าไม่ลงทะเบียนก็เข้างาน ไปถ่ายรูปกับกรีนสกรีนที่ทางนิทรรศการจัดไว้ให้
มีแบคกราวให้เลือกตรงทางออก 3 รูป อยากได้ก็ซื้อไป
ถ่ายรูปเสร็จก็ไปรอเข้าห้องวิดีทัศน์ห้องแรก ชุดนี้จะได้เข้าไปก่อน เพราะไม่ต้องรอลงทะเบียน

ส่วนกลุ่มที่จะลงทะเบียนก็ต้องไปที่ตู้ลงทะเบียนก่อน เพื่อนำบัตรแข็งที่ได้มา
ไปผูกไว้กับ email ของเรา แล้วข้อมูลทุกอย่างที่เราเล่นข้างในก็จะถูกส่งไป
ถ้าเราเสียบบัตรกับตู้นะ ถ้าไม่เสียบก็อดไปจ้า
ที่ตู้ลงทะเบียนก็จะมีวิทยากรให้คำแนะนำการลงทะเบียนในบัตรอยู่
ลงทะเบียนเสร็จก็ไปถ่ายรูปรอเข้าห้องแรก

ก่อนเข้าไปก็จะมีตานักวิทยาศาสตร์คนนี้ทักทายอยู่

ระหว่างรอเข้าข้างใน นี่ดาวแพนดอร่าเองงงงงงง

เข้ามาในห้องแรก จะเป็นการอธิบายถึงนิทรรศการเบื้องต้นว่าเราจะไปชมดาวอะไร
อยู่ไกลแค่ไหน ลักษณะเป็นอย่างไร ก็คือพูดถึงดาวแพนดอร่านั่นเอง
แล้วก็มีสอนพูดภาษานาวีนิดหน่อย อย่างเช่น สวัสดี พูดว่า เกาเต
(ซึ่งจริงๆตอนเรามาเทรน เค้าก็มีสอนพูดอยู่แหละ แต่จำได้บางอัน 55555)

วิทยากรกล่าวนำ

ฉายวิดีโอซักกะหน่อย

พอจบห้องแรก ห้องที่ 2 ก็จะอธิบายลักษณะแล้วก็เรื่องราวของสิ่งมีชีวิตบนผิวดาวมากขึ้น
เหตุผลที่มนุษย์ไปที่ดาวแพนดาร่า ดาวแพนดอร่ามีอะไรบ้าง ลักษณะเป็นยังไง
พอจบก็เข้าไปข้างใน ซึ่งวิทยากรเนี่ยเค้าก็จะบอกว่า ข้างในจะใช้เวลาราวๆ 1 ชั่วโมงครึ่ง
ใครจะอยู่นานกว่านั้นก็ได้ แต่ก็ไม่มีอะไรให้ทำแล้วนะ 555555555

คือห้องนี้จะมืดมาก เลยไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลย มีแต่รูปเรานั่งเอ๋ออยู่เลยข้ามไปละกัน

โซนแรกจะเป็นป่า พืชพรรณบนดาว ลักษณะเป็นยังไง
ซึ่งนิทรรศการเนี้ย นางออกตัวไว้แต่แรกเลยว่านางเป็น interactive exhibition
ก็คือเราสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับตัวนิทรรศการได้ โซนพืชพรรณก็จะมีให้ฟังเสียง
ดมกลิ่น สัมผัส สนุกสนานกันไป

เข้ามาบรรกาศก็จะฟุ้งๆหน่อย

คือตอนแรกพอดูจบ จอจะพลิกเปิดแบบประตูกระโปรงหลังรถอ่ะ

แล้วก็จะมีสโมคยิงปุ้งงงง ให้มู้ดแบบควันๆป่าๆ

อันนี้ก็จะเป็นพืชบนดาวแพนดอร่า

มีคำอธิบายอยู่ ให้อ่านได้ ซึ่งทุกโซนก็จะมีแหละ

อันนี้เหมือนดม แต่จริงๆฟังนะ เป็นเสียงที่ออกมาจากพืชเหรอ น่าจะใช่

นี่ ฟังจากพืชอันนี้ เราก็เป็นวิญญาณตามติดกันไป

ส่วนอันนี้เป็นพืชที่มันมีกลิ่นเหม็น ตอนแรกก็ไม่อยากดม

แต่เห็นเด็กๆโดนหลอกให้ดมกันเยอะมาก ก็เลยเอาวะ ดมมั่ง

เห็นเงาหัวเรามั้ย มุดดมอยู่นั่นอ่ะ

มันก็จะมีปุ่มให้กด แล้วเราก็รอตรงช่องนั้นอ่ะ จะมีกลิ่นพุ่งออกมา

ตอนเราดมนี่ไม่กดอ่ะ เพราะมีกลิ่นโชยอยู่ตรนั้นอยู่แล้ว ถ้ากดอาจจะตาย 55555

ส่วนอันนี้จะเป็นสัตว์ละ ให้ล้วงมือไปจับได้ ก็จะมีไอตัวนี้ได้จับๆ ก็แข็งๆนั่นแหละ

ถ่ายสาวล่ะสว่างเชียว เนี่ยแหละจอดอกไม้แตะแล้วหุบ

 ดอกไม้หุบแล้วบานแล้วหุบแล้วบานแล้วหุบแล้วบาน แงฝังวิดีโอยังไง

โซนนี้ลูกเล่นจะอยู่ตรงที่จอระบบสัมผัสที่ถ้าเอามือไปแตะ ดอกไม้จะหุบ

คนเล่นเยอะมากกๆๆ แสงจะถ่ายรูปก็ไม่มี จอบอ

ลองกดเข้าไปดูได้ ไม่รู้จะเอาวิดีโอมาแปะยังไง

ผ่านไปโซนที่ 2 ก็จะเป็นการพูดถึงเผ่าของชาวนาวี มีสปอยล์เผ่าในภาค 2 อยู่ด้วย
แต่ไม่มีผลต่อการรับรู้หรือเรื่องราวเท่าไหร่ มีอาวุธของชาวนาวีให้ดู
แล้วก็มีหุ่นขนาดเท่าชาวนาวีตัวจริงมาให้ดู 1 ครอบครัว
แล้วก็มีเครื่องดนตรีที่ใช้สังสรรค์และบอกเหตุ อันนี้ก็ฟังเสียงได้
โซนนี้จะมีเครื่องเล่นให้ลองออกเสียงประโยคตามภาษานาวี
อันนี้อัดเสียงส่งเข้าเมลล์ได้เลย มีทั้งหมด 3 ประโยค แต่เราอัดมาแค่ 2 อัน

นาวีตัวพ่อ

ครอบครัวชาวนาวี

นาวีโฟโต้บอมบ์

ข้างหน้านั่นจะมีรอยมือของทั้งพ่อ แม่ ลูก ให้เราลองทาบดูได้

อันนี้จะเป็นโมเดลเท่าขนาดจริงในหนัง เราก็ไปยืนเทียบๆได้ว่าใหญ่กว่าเราแค่ไหน

ส่วนเรา เตี้ยกว่านะ แต่กว้างกว่าด้วย ฮ่าาาาาาา

เหล่านี้จะเป็นเครื่องดนตรี มีทั้งที่ใช้บอกเหตุและสังสรรค์มั้ง

อันบอกเหตุจะเป็นทางซ้ายที่กลมๆใหญ่ๆ

ส่วนอันนี้น่าจะเอาไว้ปาร์ตี้นะ

ตัวอย่างอาวุธของชาวนาวี ดูขนาดนั่นสิคุณผู้โช้มมมม

ตรงโซนนี้จะมีให้ตอบคำถามแล้วระบบจะเลือกให้ว่าเราเป็นสัตว์อะไร

ของเรามันไม่ยอมมา มีแต่ของพี่เจที่ถ่ายเอาไว้

โซนต่อไปเป็นสัตว์ที่อยู่บนดาวแพนดาร่า หลักๆก็จะมี 3 ตัว
มีตัวที่เป็นเหมือนม้า เรียก ไดร์ฮอร์ส เหมือนหมา (ที่ดุร้าย) เรียก ไวเปอร์วูฟ
แล้วก็เหมือนนกที่ขี่ได้ ที่เป็นพาหนะของชาวนาวี เรียก แบนชี่ มีให้ระบายสีด้วยนะ

เล่นใหญ่นิดนึง ตกใจไดร์ฮอร์ส (Dire-horse)

อ่ะ ดูแบบไม่มีเรารบกวน 55555555555

หมาล่าเนื้อไวเปอร์วูฟ (Viper-wolf)

ตอนแรกคิดว่าไม่ได้ถ่ายรูปมา คือมันจะเป็นคอก แล้วมีจอเลื่อนได้ 3 จอรอบๆ

เป็นภาพสแกนอวัยวะภายในของไอเจ้าไวเปอร์วูฟ

เป็นภาพแบบสีแดงๆเลือดๆทั้ง 3 อัน เจ๋งดีแต่โดนไฟดูดไปทีนึงจี๊ดๆ

ทำเป็นแอ๊บยืนอ่านประวัติ

ตรงนี้จะมีอุนจิของสัตว์แต่ละตัวให้ทายว่า อันนี้เป็นอึ๊ของใครรรร

เราก็จะไปจับแล้วก็ทาย ดมได้ไม่มีกลิ่นนะ จริงๆไม่ต้องดม 555555555555

โซนต่อไปจะมีนกให้บังคับเป็นจอภาพขนาดใหญ่ เล่นได้จอละ 2 คน มี 2 จอ
ก็คือเข้าไปในคอก แล้วจะมีนกมาอยู่หน้าเราตัวนึง คำนับ แล้วก็ให้เราบังคับ
ท่าทางก็มีอยู่ 3 แบบคือ กระพือปีก เอียงตัว แล้วก็ปรบมือ มันก็จะกลับตัวนั่นเอง

เรากำลังไปแหงนบินอยู่

บินไปกับแบนชี่ แงฝังวิดีโอในนี้ไม่เป็น

ถ้าอยากดูว่าบังคับบินยังไง กดเข้าไปในตัวอักษรข้างบนเลย

บินเสร็จก็มาดูตัวจริงกัน ว่าไงแบนชี่

กำลังแอ๊บว่าโดนแบนชี่คาบหัว แต่น้องคนข้างหลังก็ไม่สนโลก

ตั้งแต่เล่นดอกไม้หุบได้แล้วนะ เดี๋ยวจะตีมือให้ 55555555555 หลอกๆ

อันนี้ก็จะมีตัวอย่างไข่ มีตัวอย่างเทือกเขาฮาเลลูยา เราก็ไปพยายามถ่ายรูปด้วย
จนน้องวิทยากรแซวเลยว่า อันนี้ก็พยายามสุดๆนะครับ 555555555555
คือข้างในส่วนมากมันจะมืดๆ วิทยากรก็แนะนำว่าให้ยืนตรงที่ไฟสีส้มตก
ก็ทำตามแล้วไง 55555555555555 จะได้มองเห็นหน้า ไม่เป็นวิญญาณตามติด

ตัวอย่างไข่แบนชี่

ภาพที่โดนแซว

อันนี้ตรงข้างหน้ามันจะมีวงล้อให้หมุน เป็นพลังแม่เหล็ก

จะให้ดูว่าทำไมเทือกเขาถึงลอยอยู่ได้แบบนั้น

ดูตัวอย่างจากข้างหน้า ต่อให้หมุนจนครบทีวี 360 องศาก็ไม่มีวันแตะกัน

ไอเรื่องจำนวนโซนนี่เราไม่แน่ใจมากนะว่ามันมีแค่ไหน
บางโซนเราไม่ได้สนใจข้อมูลเล็กน้อยมากด้วย เพราะคนค่อนข้างเยอะ
พอตั้งใจจะรอให้คนซา คนชุดใหม่ก็เข้ามาละ เลยไม่ได้ตั้งใจดูหรืออ่านอันที่เป็นตู้เล็กๆ

โซนต่อไป จะเป็นโซนของมนุษย์ที่ขึ้นไปสำรวจละ ว่ามีใครบ้าง
ก็พวกทหาร นักวิทยาศาสตร์ นักชีววิทยา อะไรทำนองนี้
มีตัวอย่างอันออบเทเนียม ลอยๆอยู่ มีชุดให้ดู มีหุ่นยนตร์ให้บังคับ
อันนี้บังคับตามจอเลยง่ายๆ จะได้เล่นกันทุกคน

หรือที่เรียกว่าโซน RDA

พร้อมมั้ยพลทหาร

ถ่ายรูปร่วมกับนักวิทยาศาสตร์

เอาอันออบเทเนียมมา!! (เพ้อเจ้ออะไร??)

ไม่ได้ถ่ายตอนเล่นเครื่องเล่นมา เพราะต่างคนต่างเล่น ไม่มีอะไรมาก

มีคันบังคับ 2 อัน โยกตามลูกศรบนหน้าจอ ฟีลเหมือนเล่นเกมเต้น

อันออบเทเนียมที่ว่า

Unobtainium

ขอพลังหน่อยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

ถ่ายกับหุ่นรบชิคๆ

AMP suit

ไม่มีเรารบกวนแล้วนะ

พี่เจชอบบ่นว่า ทำไมแกต้องเอาตัวเองไปใส่ในทุกรูป ยุ่ง

โซนต่อไปเป็นพืชและสัตว์กลางคืน ก็จะมืดมากกกกกก
แล้วก็จะมีแสดงพันธุ์พืชเรืองแสง พืชที่จะเปลี่ยนสีเวลามีภัยถ้าชาวนาวีเอามือไปแตะ
อันนนี้ถ่ายรูปไม่เห็นเลย เป็นวิญญาณตามติดของจริง 5555555555

สัตว์ที่ออกมาตอนกลางคืน

ตรงนี้จะเป็นจอฉายมาที่พื้น เวลาเราเดินลงไปเหยียบตรงไหน

ตรงนั้นก็จะเรืองแสงออกมา แต่ตอนแรกไม่รู้เลยไม่ได้เล่น

ไปเจอในรีวิวของคนอื่น แงแง

ส่วนอันนี้เป็นจอระดับที่เอามือวาดๆได้ เรืองแสงตอนกวาดมือไปเหมือนกัน

อันนี้คือพืชที่บอกว่า ถ้าเอามือไปแตะตรงปุ่มที่เค้าทำไว้ให้มันจะกลางเป็นสีแดง

คือพืชที่ชาวนาวีใช้เตือนภัย ถ้าสัมผัสก็จะเปลี่ยนสี จากฟ้าเป็นแดง

 

อันนี้อะไรไม่รู้ แต่หยะแหยงมาก

โซนสุดท้ายแล้ว The best of all มีต้นไม้ Tree of Souls รุกขชาติแห่งจิตวิญญาณของชาวนาวี
สวยมากกกกกกกก แต่ก็มืดมาก เสียดายที่มีที่กั้น เข้าไปใกล้ไม่ได้
แต่ก็เข้าใจเรื่องการควบคุมการดูแลรักษาอะไรงี้ ถ้าคนเข้าไปได้ มีหวังพังตั้งแต่วันแรก

อยากเข้าไปใกล้เธอ พอรู้จักก็หยักจาด้ายเจอออออ

แงงงง สวย เรานะ หลอก 5555555555

นอกจากต้นไม้ก็ยังมี wood-sprite ที่ถ้ามาเกาะที่ใครแล้วจะเหมือนได้รับพร
มันจะมีจอให้ไปยืน แล้วตัวนี้ก็จะลอยลงมาเกาะ ก็ได้รับพรกันไปถ้วนหน้าจ้าาาาา

มันจะมีทั้งหมด 3 จอติดกัน แล้วคนที่มายืนอ่ะ ก็จะมีคนถ่ายรูปพ่วงมาด้วย

แล้วน้องแบบ อยากอยู่คนเดียวในจอง่าาาา เสียใจ

สุดท้ายท้ายสุดจริงๆ ตรงโซนนี้จะมีตู้ให้เราแปลงร่างเป็นชาวนาวีได้
โดยการถ่ายรูปหน้าของเรา แล้วนางก็จะเอาไปประมวลผลสร้างหน้าของเราแบบชาวนาวี
แชร์เก็บเข้าบัตรไปเล้ยย ตลกดี คนต่อแถวยาวมากก 5555555

ถ่ายรูปเข้าไป ระยะการยืนออกแบบมาให้คนแคระอ่ะ ต้องย่อๆยืดๆอยู่

คือมันสูงกว่าเด็กและเตี้ยกว่าผู้ใหญ่ เก็ทม้ะ

ถ่ายแล้วก็จะได้หน้าจอแบบนี้ แชร์ไปปปปปปโลด

ภาพรวมของงานเราว่าสั้นไปหน่อย แต่ก็อลังการงานสร้างอยู่ คิดว่าเหมาะกับเด็กมากกว่า
ราคาบัตร 490 ต่อคน ถ้าสั้นเท่านี้ก็แอบเสียดายนะ ดีที่ได้ 1 แถม 1
งานจบไปแล้ว เราไปวันสุดท้ายพอดี เค้าก็จะเดินทางไปจัดที่ประเทศอื่นต่อเด้อ
ส่วนที่บ่นๆเรื่องมืด คือทางงานไม่ให้ใช้แฟลชในการถ่ายภาพเพื่อบรรยากาศที่สมจริง

ตรงทางออกก่อนจะไปโซนขายของที่ระลึก

นักวิทยาศาสตร์คนเดิมก็จะมายืนบ๊ายบายอยู่

เลยแวะเข้าไปทักทายซักหน่อย :)

บ๊ายบายนะ

woodsprite

ถ่ายรูปหน้างานก่อนกลับ

Trees of soul ปลอม

อันนี้ก็เป็นระยะที่ถ่ายรูปโคตรยาก นั่งก็ไม่ได้ ยืนก็บังมิด

หน้างานก็จะมีทั้งหมด 3 รูปให้ถ่ายด้วย เป็นอันจบสิ้น

เราจะมาดูข้อมูลที่ถูกส่งมาในเมลล์กันค่ะ
อันดับแรกตอนไปลงทะเบียนก็จะมีเมลล์เด้งเข้ามาให้ยืนยันอีกเมลล์

หน้าตาแบบนี้ เราก็กดยืนยันอีเมลล์ไป เค้าก็จะให้เข้าสู่ระบบ

อันนี้เราก็กรอก email ที่ลงทะเบียนไว้ ใส่พาสเวิร์ดไป กดลงชื่อเข้าใช้

ในนี้ก็จะมีส่วนที่เรียกว่าบันทึกการวิจัย สามารถโหลดออกมาเก็บไว้ได้เลย

มีทั้งหมด 4 หัวข้อตามที่ได้เล่นเครื่องข้างในเล้ยยย

เราเลยทำการโหลดข้อมูลออกมาเรียบร้อย
1. ก็มีคุณเป็นสัตว์ชนิดใดบนดาวแพนดอร่า ซึ่งเราไม่แน่ใจว่าทำไมอันนี้แชร์มาไม่ติด หรือลืมกด
2. มาพูดภาษานาวีกันเถอะะ อันนี้มันมีอันนึงให้พูดแนะนำตัว แต่เราไม่ยอมพูดชื่อ ไม่รู้ 5555

หน้าที่ให้โหลดเสียงก็จะมีบอกว่า คลิปเสียงไหนพูดอะไร แปลว่าอะไร

อันแรกที่แปลว่า สวัสดีเด็กๆ มันไม่ใช่อ่ะ มันคือ สวัสดีฉันชื่อ_____. นะ

ลองกดฟังกันได้ มันน่าจะลิ้งไปหน้าอื่น มั้งนะ

1) Hello! My name is (and I forget to say my name 555).

2) I see you.

3. ระบายสีแบนชี่ ตอนแรกคิดว่าจะให้เป็นแบบระบายแอดวานซ์เลย
แต่มันเป็นแบบให้เลือกส่วน 4 ส่วน แล้วเลือกสี 5 สี จะมีส่วนหัว ตัว หาง แล้วก็แบคกราว

เราก็เลือกไป แปะๆ เหมาะกับเด็กๆมากอันนี้

4. มาแปลงร่างเป็นชาวนาวี เย่ๆๆ เป็นชาวนาวีมีความสุข

ตาเกือบไม่ตรง 555555555555

ครั้งนี้ไม่ได้ถ่ายรูปคู่กับพี่เจเลย ไม่ได้ถ่ายรูปพี่เจเลยด้วยซ้ำ

ไม่รู้น้อยใจหรือเปล่า 555555555555555555 จุ้บบ

ใช้เวลาเดินรวมประมาณ 1 ชั่วโมงพอดี ไม่น่าเชื่อ

จบแล้วไปก่อนเด้ออออออออออออออออออ